นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายไม่เห็นด้วยต่อการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ รายมาตรา ทั้ง 3 ฉบับ ว่า กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเร่งรีบ และขาดการศึกษาข้อจำกัดหรือข้อบกพร่องของรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 เนื่องจากการในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ผ่านมา รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญถึง 2 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้รัฐธรรมนูญที่มีนายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.เป็นประธาน และคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เป็นประธาน ซึ่งต่างจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ที่มิได้มีการศึกษาแต่อย่างใด
นอกจากนี้ นายเทพไท ยังระบุว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 โดยลดช่องทางในการยื่นฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรงจากประชาชนให้เหลือเพียงช่องทางเดียว คือ การยื่นร้องผ่านอัยการเท่านั้น ซึ่งกระบวนการนี้เป็นแนวที่จะนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ด้วยการผลักดันร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตรา 291 ที่ว่าด้วยการจัดตั้ง สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. ที่ยังค้างอยู่ในการพิจารณาวาระ 3 ของรัฐสภา ซึ่งจะนำไปสู่การจัดตั้งส.ส.ร.และทำให้สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้