จนท.เร่งขยายผลสอบ
พล.ท.ภราดร พัฒนาถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. กล่าวถึง กรณีพลทหาร มะอีลา โตะลู ทหารสังกัดนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ จ.นราธิวาส ถูกอุ้มสังหาร โดยระบุว่า กรณีดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นการตอบโต้รัฐบาล หลังจากมีการพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็น เพราะยังมีกลุ่มที่มีความแตกต่างทางความคิด และมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง
ประกอบกับขณะนี้ เพิ่งเริ่มต้นการเจรจา จึงยังมีรอยต่อของปัญหา แต่ยืนยันว่า ไม่มีการทบทวนหรือปรับยุทธศาสตร์รักษาความมั่นคงในพื้นที่ รวมถึงยังไม่มีการปรับเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ และยังคงกำลังเจ้าหน้าที่เช่นเดิม
สำหรับการเจรจา พล.ท.ภราดร ระบุว่า ยังต้องเดินหน้าต่อไป เพราะเชื่อว่า จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาในพื้นที่ให้สงบได้ ส่วนกรณีที่มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ร่วมกับทหาร ดูแลความปลอดภัยบริเวณพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ไม่ถือว่าเป็นจุดอ่อน แต่เป็นการเพิ่มกำลังในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้ประชาชนมั่นใจมากขึ้น เบื้องต้น ทางรัฐบาลจะพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นอีกครั้ง ในวันที่ 29 เมษายนนี้ โดยจะมีตัวแทนทั้งหมด 9 คน ซึ่งรวมถึงภาคประชาชนด้วย
ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ จะไม่ส่งผลต่อการพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ โดยกระบวนการของ สมช.อยู่ในขั้นตอนการพูดคุยไม่ใช่การเริ่มต้นเจรจา และอยู่ในระหว่างการสร้างความเข้าใจ และไว้ใจกันระหว่างสองฝ่าย และหากเกิดความเข้าใจ แล้วก็จะก้าวเข้าสู่การเจรจาต่อไป
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยว่า กำลังดำเนินการตรวจสอบกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพลทหารมะอีลา พร้อมทั้งสั่งไปยังนายทหารระดับผู้บังคับบัญชาที่ปฏิบัติในพื้นที่ว่า หากยังไม่ชัดเจนเรื่องความปลอดภัยของกำลังพลที่ปฏิบัติงานอยู่ ก็ไม่ควรให้กำลังพลรีบกลับบ้าน โดยให้หาที่พักที่ปลอดภัยก่อนจนกว่าสถานการณ์จะเรียบร้อย
แต่หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นก็ต้องใช้กฎหมายพิเศษให้เข้มงวดขึ้นในหลายข้อและหลายมาตรการ ซึ่งปัจจุบันกฎหมายพิเศษที่ใช้อยู่ข้อเดียว คือ การตรวจค้นจับกุม ส่วนปัญหาที่ผู้ก่อความไม่สงบแต่งกายเลียนแบบทหารเป็นปัญหาเดิมที่ต้องแก้ไข
ส่วนความคืบหน้าในการติดตามผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคดีสำคัญ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้ ได้เข้าตรวจสอบ หาหลักฐานเพิ่มเติมบริเวณริมถนนบ้านกอตอ ตำบลปะลุกาสาเมาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นจุดที่พบศพพลทหาร หลังถูกจี้ลักพาตัวไป โดยหลังจากนี้จะมีการสืบสวนสอบสวนอย่างเร่งด่วน
ด้านพล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ระบุว่า รู้สึกเสียใจที่เกิดความสูญเสียในครั้งนี้ ซึ่งต่อไปจะต้องมีความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น เบื้องต้น ได้ช่วยเหลือครอบครัวกำลังพลที่เสียชีวิตตามระเบียบของกองทัพเรือ ส่วนกำลังพลที่พักอยู่ในพื้นที่ทางกองทัพเรือมีมาตรการในการดูแลอยู่แล้ว
ขณะที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มใด หรือเป็นบุคคลใด ซึ่งคนร้ายไปอุ้มตัวพลทหารที่บ้านพัก แต่คงบอกรายละเอียดทั้งหมดไม่ได้ ซึ่งพลทหารคนดังกล่าวที่เสียชีวิตเป็นคนที่มีระเบียบวินัย ผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานรักใคร่ และใกล้ที่จะปลดประจำการ อย่างไรก็ตามไม่อยากให้สันนิษฐานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความต้องการเพื่อแก้แค้นของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ อยากให้มีการตรวจสอบให้ละเอียด