รีลมาดริด รองจ่าฝูง ที่มีการปรับทัพ พบกับ เลบานเต้ โดยศึกนี้ เลบานเต้ขึ้นนำก่อนจากลูกยิงของ มิเชล เอเรโร่ นาที 30
หลังจากโดนนำ รีลมาดริดกลับยิงประตูตีเสมอ 1-1 จากการวอลเลย์ของ กอนซาโล่ อิกัวอิน ทีมชาติอาร์เจนติน่า และเรอัลมาดริด ครองเกมได้ทั้งหมด โดยได้อีก 4 ประตูรวดจากการยิงจุดโทษของ กาก้า, คริสเตียโน โรนัลโด้, เมซุต โอซิล ใน2 ประตูสุดท้าย ช่วยให้ รีลมาดริด ชนะ เลบานเต้ 5-1 และทำให้รีลมาดริดมี 65 คะแนน ตามหลัง บาร์เซโลน่า 13 คะแนน
ด้านเกตาเฟ่ ที่ฟอร์มยอดเยี่ยมตลอด 8 เกมหลัง แพ้แค่นัดเดียว โดยผลงานในบ้านชนะ 4 เกมหลังสุด เปิดบ้านพบกับ แอตเลติโก้ มาดริด อันดับ 3 ของตารางที่ 4 นัดหลังสุดในลีกชนะแค่นัดเดียว
ขณะที่สถานการณ์ของ แอตเลติโก้มาดริดไม่ดีขึ้นแม้จะพยายามบุกหนัก และเหลือ 10 คนเมื่อ มาริโอ ซูอาเรซ ไปทำแฮนด์บอลกรรมการจึงให้ใบแดงไล่ออกจากสนาม แต่แม้จะมีผู้เล่นน้อยกว่าแต่ แอตเลติโก้ มาดริด กลับมีโอกาสลุ้น แต่จบสกอร์ไม่ได้ ครบ 90 นาที เกตาเฟ่ เสมอกับ แอตเลติโก้ มาดริด 0-0 แอตเลติโก้มาดริดยังอยู่อันดับ 3 ของตารางมี 62 คะแนน
ด้านบาร์เซโลน่า เล่นที่คัมป์นู พบกับ รีล มายอก้า โดยไม่มี ลิโอเนล เมสซี่ ที่ทำแล้ว 43 ประตูในลีกเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่เอ็นหลังหัวเข่าและ ฮาเวีย มาสเคราโน่ ที่เจ็บกล้ามเนื้อขาพักยาว 6 สัปดาห์
แม้ไม่มีลิโอเนล เมสซี่ แต่บาร์เซโลน่าชนะ รีล มายอก้า 5-0 จากการยิงประตของ เชส ฟาเบรกาส 2 ประตู และอเล็กซิส ซานเชส 2 ประตู และประตูที่ 5 เชส ฟราเบรกาส ซึ่งเป็นแฮททริกในเกมนี้ ทำให้บาร์เซโลน่ามี 78 คะแนนนำเป็นจ่าฝูง
ผลบอลพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล เสมอ เวสต์แฮม 0-0 ท็อตแน่มฮ็อตสปเอณืส เสมอกับ เอฟเวอร์ตัน 2-2, เชลซี ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-1, นิวคาสเซิ่ล ชนะ ฟูลแล่ม 1-0, ควีนส์ปาร์ค แรนเจอร์ เสมอ วีแกน 1-1