นายกฯ สั่งปรับแผน รปภ. รับสถานการณ์รุนแรงใต้-ยืนยันเดินหน้าเจรจาสันติภาพต่อ
หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทุกกระทรวงบูรณาการการแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว พร้อมระบุว่า ได้สั่งการไปยังระดับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เพื่อพิจารณาปรับแผนการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์
นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันที่จะเดินหน้าพูดคุยเพื่อแสวงหาแนวทางแก้ปัญหากับแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น และย้ำในหลักการว่า การพูดคุยอยู่ระหว่างการสร้างความไว้วางใจ จึงยังไม่เชื่อว่าเหตุความรุนแรง เกิดจากผลกระทบของการพูดคุย 2 ฝ่าย
ก่อนหน้านี้ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ยอมรับว่า อาจต้องเลื่อนการพูดคุยกับแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็นจากเดิมนัดหมายไว้ในวันที่ 29 เมษายนนี้ และชี้ว่าอยู่ระหว่างการประสานงานกับมาเลเซีย เพื่อให้เห็นตรงกันทั้ง 3 ฝ่าย
เหตุผลการเลื่อนน่าจะเกิดจากมาเลเซียจะมีการเลือกตั้งมากกว่าผลจากสถานการณ์ใต้รุนแรงต่อเนื่อง ส่วนอนาคตการพูดคุยที่เข้าสู่การเจรจาจะมีการพิจารณายุติ หรือไม่ คงต้องนำข้อมูลและการสื่อสาร รวมถึงแนวโน้มของสถานการณ์มาพิจารณาต่อไป
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน และในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำว่า ทุกฝ่ายควรเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมชี้ว่า การพูดคุยหรือเจรจานั้นไม่ควรเลื่อนออกไปด้วยเหตุผลว่ามาเลเซียมีการเลือกตั้ง
ขณะเดียวกันก็เห็นว่า ถือเป็นความจำเป็นที่รัฐบาลต้องแสดงท่าทีให้ชัดเจน ว่าเป้าหมายคือการลดความรุนแรงในพื้นที่ และต้องพูดคุยให้ได้ข้อมูลกลุ่มและเป้าหมายของการก่อเหตุ เพื่อบรรลุเป้าหมายและแก้ปัญหา นอกจากนี้ยังเห็นว่า นายกรัฐมนตรี ควรรับบทบาทที่จะดูแลแก้ปัญหาเอง