เจ้าหน้าที่สำนักงานสาขาชั่งตวงวัด เขต 1-4 พิษณุโลกตรวจสอบโรงสีโกงความชื้นข้าว
เจ้าหน้าที่สำนักงานสาขาชั่งตวงวัด เขต 1-4 พิษณุโลก สาธิตนำข้าวเปลือกความชื้น 28 เปอร์เซ็น ต์ มาวัดหาค่าความความชื้นบนเครื่องวัดความชื้น ที่ตรวจยึดจากโรงสีในจังหวัดพิษณุโลก พบว่า ค่าความเพิ่มขึ้นถึง 30 เปอร์เซ็นต์
จากการตรวจสอบ พบว่ามีการนำหน้ากากของเครื่องวัดความชื้นข้าวเปลือกรุ่นที่ผ่านการรับรอง มาสวมทับตัวเครื่องวัดความชื้นข้าวเปลือก รุ่น pm400 ที่มีปุ่ม สำหรับเพิ่มหน่วยความชื้นได้ และ ถูกยกเลิกไม่ให้ใช้ในโครงการรับจำนำของรัฐบาล เพราะเป็นช่องทางในการโกงค่าความชื้นให้สูงกว่าความเป็นจริง แต่ไม่สามารถเอาผิดได้ เนื่องจากช่วงที่เข้าไปตรวจไม่ได้อยู่ในช่วงรับจำนำข้าว จึงทำได้เพียงขอนำเครื่องตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านเท่านั้น
ปัจจุบัน ราคารับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลอยู่ที่ตันละ 15,000 บาท ต่อความชื้น 14 เปอร์เซ็นต์ แต่หากข้าวมีความชื้นสูงกว่านั้น โรงสีก็จะหักค่าความชื้น ในอัตราเปอร์เซ็นต์ละ 100 บาทดังนั้นจึงเป็นช่องทางให้โรงสีบาง จงใจโกงค่าความชื้น เพื่อหวังส่วนต่างราคา
เครือข่ายโรงเรียนชาวนานครสวรรค์ระบุว่า ที่ผ่านมาเครือข่ายโรงเรียนชาวนาใน 47 จังหวัดทั่วประเทศไทย ล้วนได้รับการร้องเรียน การทุจริตในการตรวจวัดความชื้นข้าว แต่ชาวนาส่วนใหญ่จะไม่กล้าออกมาร้องเรียนต่อทางภาครัฐ โดยกลโกงที่พบบ่อยที่สุด คือการใช้มือกำข้าวเปลือก เพื่อเพิ่มความชื้นให้แก่เมล็ดข้าว
ขณะที่ผู้ประกอบการโรงสีข้าวรายใหญ่ ในจังหวัดสุโขทัย ยืนยันความโปร่งใส และไม่กล้ากระทำผิด เพราะสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้โรงสีหมดความน่าเชื่อถือ แต่ตั้งข้อสังเกตว่าการเกี่ยวข้าวของชาวนาปัจจุบันที่มักใช้รถเกี่ยวข้าว เกี่ยวข้าวจากด้านนอกเข้าสู่ด้านในของแปลงนา ทำให้การตรวจวัดความชื่นข้าวเปลือกอาจไม่เที่ยงตรง หากไม่ได้เก็บตัวอย่างข้าวจากรถบรรทุกข้าวอย่างน้อย 3 จุด คือ ด้านบน กลาง และด้านล่างของกองข้าว เพื่อนำไปหาค่าเฉลี่ยความชื้น
ล่าสุด สำนักงานสาขาชั่งตวงวัด เขต 1-4 พิษณุโลก ส่งเจ้าหน้าที่ออกสุ่มโรงสีข้าวที่ร่วมโครงการรับจำนำข้าวทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันผู้ประกอบการเอาเปรียบชาวนา แต่ชาวนาเองต้องสังเกตผู้มีหน้าที่วัดความชื้นอย่างใกล้ชิดว่ามีพฤติกรรมโกงหรือไม่ เช่น ใช้มือจับผ้าเปียกที่พาดบ่า หรือมีข้าวพรมน้ำ ที่ซ่อนไว้อยู่ใต้โต๊ะเพื่อ นำมารวมกันก่อนกำข้าวเปลือกมาวัดหาค่าความชื้น เป็นต้น