นายสมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว ป.ประมุข ยังมีสัญญากับไทยไฟท์อีก 2 ปี โดยระบุว่า บัวขาวต้องขึ้นชกแข่งขันกับรายการไทยไฟท์เท่านั้น แต่การขึ้นชกที่กัมพูชาในรายการขะแมร์ไฟเตอร์ เมื่อปลายเดือนมีนาคม ทำให้เกิดความเข้าใจคำว่า การแข่งขันที่แตกต่างกันระหว่างบัวขาว และ ไทยไฟท์
ด้านนายนพรัตน์ พุทธรัตนมณี รองประธานจัดการแข่งขันไทยไฟท์ยืนยันว่า การขึ้นเวทีขะแมร์ไฟเตอร์เป็นการแข่งขันตามความหมายของพระราชบัญญัติกีฬามวย เพราะถึงแม้จะไม่มีคำจำกัดความของการชกโชว์ตามที่ผู้จัดการส่วนตัวของบัวขาวอ้าง แต่ไทยไฟท์มองว่ามีความสมจริง และหากบัวขาวในฐานะโปรดิวเซอร์ขึ้นเวทีแมกซ์มวยไทยรูปแบบเดียวกับขะแมร์ไฟเตอร์อีก อาจจะเกิดความยุ่งยาก และซับซ้อนมากกว่านี้ ขณะที่ผู้จัดการส่วนตัวของบัวขาวยืนยันว่า ขะแมร์ไฟเตอร์เป็นการชกโชว์เผยแพร่ศิลปะมวยไทย โดยได้มีการตกลงกับผู้จัดไว้ล่วงหน้า
สำหรับไทยไฟท์ยอมรับว่า ได้รับผลกระทบอย่างมากหลังจากเปิดเผยหลักฐานว่าแม็กซ์มวยไทยใช้ภาพการแข่งขันของไทยไฟท์เพื่อการประชาสัมพันธ์และทำให้เกิดความเข้าใจผิดจากผู้สนับสนุน รวมทั้งสถานีโทรทัศน์ที่ถ่ายทอดสด
ไทยไฟท์จึงดำเนินการฟ้องบริษัทแม็กซ์มวยไทย 100 ล้านบาท รวมถึงการฟ้องผู้บริหารแม็กซ์มวยไทยอีก 3 คน โดยใน 3 ปีที่ผ่านมา ต้องลงทุนเกือบ 1,000 ล้านบาทในการสร้างทัวร์นาเมนท์นี้
นอกจากนี้รองประธานจัดการแข่งขันไทยไฟท์ ยังเปิดเผยว่า ค่าย ป.ประมุข กำลังเดินหน้าร้องต่อศาลเพื่อให้บังคับคดีกรณีบัวขาวไม่แบ่งผลประโยชน์ให้กับค่ายตามที่ตกลงกันไว้ตามคำสั่งศาล ซึ่งบัวขาวต้องแบ่งผลประโยชน์ให้ ค่าย ป.ประมุข ร้อยละ 40 จากการขึ้นชก และส่วนแบ่งอีกร้อยละ 25 จากการรับงานอื่นนอกเหนือการชก เช่น การโชว์ตัว และการถ่ายโฆษณา