กฎหมายปากีสถานสั่ง ยุติหาเสียง 48ชั่วโมง หลังการโจมตีของกลุ่มตอลีบัน
วันพรุ่งนี้(11 พ.ค. 56) ปากีสถานจะจัดการเลือกตั้งครั้งสำคัญทางประวัติศาสตร์ และเป็นการเลือกตั้งที่นองเลือดที่สุดอีกด้วย หลังมีนักการเมืองและประชาชนเสียชีวิตจากการโจมตีของกลุ่มตอลีบันและกลุ่มอื่นๆที่ไม่ทราบฝ่าย ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 100 คน โดยเมื่อวานนี้เป็นวันสุดท้ายของการหาเสียง ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ยุติการหาเสียง 48 ชั่วโมงก่อนการเลือกตั้ง
การหาเสียงเมื่อคืนนี้สิ้นสุดเวลาเที่ยงคืน นี่คือการหาเสียงของนายนาวาซ ชารีฟ ที่คาดว่าพรรค"สันนิบาตปากีสถาน มุสลิม นาวาซ" ของเขาจะชนะการเลือกตั้งและน่าจะได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ นายชารีฟกล่าวบนเวทีเรียกร้องให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เพื่อร่วมกันกำหนดอนาคตของประเทศ และบอกว่าหากเขาได้ทำหน้าที่บริหารประเทศ จะทบทวนเรื่องการให้ความสนับสนุนสหรัฐฯในการทำสงครามต่อต้านกลุ่มอาวุธ และจะเปิดการเจรจากับกลุ่มตอลีบัน ซึ่งนโยบายนี้เป็นสิ่งที่ทำให้การหาเสียงของนายชารีฟเป็นไปอย่างราบรื่น และไม่เคยถูกกลุ่มตอลีบันโจมตีเหมือนกับพรรคการเมืองรายอื่น
เมื่อวานนี้กลุ่มมือปืนไม่ทราบฝ่ายได้ลักพาตัวนายอาลี ไฮเดอร์ กิลานี่ วัย 27 ปี ลูกชายของอดีตนายกรัฐมนตรียูซุฟ ราซา กิลานี่ ในขณะเดินสายหาเสียงเลือกตั้งในเมือง"มุลตาน"ซึ่งเป็นพื้นที่ฐานเสียงของตระกูลกิลานี่ ในนามของพรรคประชาชนปากีสถานหรือ"พีพีพี" โดยคนร้ายได้ยิงใส่ขบวนรถหาเสียงของบุตรชายอดีตผู้นำ ทำให้เลขานุการและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิตรวม 2 คน และบาดเจ็บอีก 4 คน จนถึงตอนนี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างว่าเป็นผู้ลงมือ
นายกิลานี่ผู้เป็นบิดาเรียกร้องให้ทุกคนอดทน และปล่อยให้เรื่องนี้เป็นไปตามกฏหมาย การเลือกตั้งถือเป็นภาระหน้าที่ที่ทุกคนควรจะออกไปใช้สิทธิ์
นอกจากคดีลักพาตัวและการฆาตกรรม ก็ยังมีคำขู่ของกลุ่มตอลีบันอีก โดยมีการเผยแพร่แถลงการณ์ของนายฮากิมุลเลาะห์ เมห์ซุด หัวหน้ากลุ่มตอลีบันที่วางแผนโจมตีการเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้(11 พ.ค. 56) โดยจะใช้วิธีระเบิดฆ่าตัวตาย
คำขู่ดังกล่าวทำให้กองทัพปากีสถานเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัย โฆษกกองทัพแถลงว่าการเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้จะมีกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานดูแลความปลอดภัยทั้งสิ้น 300,000 นาย ในจำนวนนี้กำลังพลประมาณ 96,000 คน จะประจำการอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มตอลีบัน และ 32,000 นายจะดูแลความปลอดภัยในรัฐปัญจาบซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรหนาแน่นที่สุด แม้จะมีคำขู่จากกลุ่มตอลีบัน ที่จากการสอบถามความเห็นของประชาชนพบว่าหลายคนมีความตั้งใจที่จะต้องไปเลือกตั้งเพราะอนาคตของประเทศชาติสำคัญกว่าความหวาดกลัวกลุ่มตอลีบัน
นับตั้งแต่รัฐบาลประกาศจะจัดการเลือกตั้งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา นักการเมืองทุกค่ายต่างก็หาเสียงกันอย่างคึกคัก ในขณะที่กลุ่มก่อการร้ายซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มตอลีบันได้ก่อเหตุรุนแรงโจมตีขบวนหาเสียงของนักการเมือง ซึ่งจนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 100 คน ถือเป็นการเลือกตั้งครั้งนองเลือดที่สุดของปากีสถาน ทำให้นักการเมืองต้องเปลี่ยนกลยุทธ์การหาเสียง จากเดิมจะจัดขบวนแห่ไปรอบเมืองก็เปลี่ยนเป็นเดินหาเสียงแบบเคาะประตูตามบ้าน
การเลือกตั้งในครั้งนี้ถือเป็นครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของปากีสถาน เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลซึ่งมาจากการเลือกตั้งอยู่ในตำแหน่งจนครบวาระ และกำลังจะมีการเปลี่ยนผ่านอำนาจไปยังคณะรัฐบาลชุดใหม่ซึ่งจะมาจากการเลือกตั้งเช่นกัน