กระแสฟุตบอลลีกภูมิภาคเติบโตก้าวกระโดด

ก่อนหน้านี้สโมสรในระดับไทยพรีเมียร์ลีกเริ่มขยับและปรับตัวเพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานเอเอฟซีกำหนดไว้ ไม่เว้นแม้แต่ฟุตบอลในระดับลีก ภูมิภาค ซึ่งแม้จะยังไม่สามารถกำหนดและควบคุมให้เป็นไปตามเอเอฟซีกำหนด แต่ฝ่ายจัดการแข่งขันและการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท.กำลังพิจารณาร่วมกัน ทั้งเรื่องของการบริหารจัดการ ระบบพัฒนาเยาวชน สวัสดิการ การจัดการแข่งขัน สนามแข่งขัน รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัย

ทั้งนี้ฟุตบอลลีกภูมิภาคมีถึง 84 ทีม จึงต้องใช้เวลาในการพัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไป หลังจากก่อตั้งลีกในปี 2549 การพัฒนาอย่างจริงจังเพิ่งจะเริ่มทำมาได้เพียง 5 ฤดูกาลเท่านั้น ระยะเวลาที่ผ่านมาฟุตบอลลีกภูมิภาคเติบโตขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ

เริ่มจากเงินสนับสนุนเพียงทีมละ 100,000 บาทจากภาครัฐในตอนแรก ขณะนี้มีงบประมาณให้ถึง 2,000,000 บาทต่อทีม แต่ยังถือว่าไม่เพียงพอ เพราะอย่างน้อยแต่ละทีมต้องใช้เงินในการทำทีมประมาณ 6,000,000 - 7,000,000 บาท

เนื่องจากสโมสรส่วนใหญ่มาจากตัวแทนของจังหวัด จึงง่ายในการใช้สนามกีฬาของ กกท. หรือ สนามของการพลศึกษาเป็นสนามเหย้า จึงไม่ต้องลงทุนสร้างสนามใหม่เพียงแต่มีการปรับปรุงรื้อฟื้นให้อยู่ในสภาพที่ใช้การได้ โดย กกท.เพิ่งจะมีการส่งมอบให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นผู้ดูเมื่อไม่นานมานี้

สำหรับลีกภูมิภาคที่แบ่งออกเป็น 6 โซนนั้น โซนที่น่าสนใจคือโซนภาคใต้ ซึ่งทีมจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ทั้งปัตตานี เอฟซี ทีมอันดับ 9 ยะลา เอฟซีทีมอันดับ 5 และ นรา ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นทีมจ่าฝูงถือว่าสร้างความสุขให้กับชาวบ้านได้อย่างมาก แม้จะมีสถาณการณ์ ความไม่สงบแต่ทุกคนพร้อมใจกันออกไปดูฟุตบอล

ความนิยมกีฬาฟุตบอลในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทำให้รัฐบาลยอมเทงบประมาณถึง 400 ล้านบาทให้กับนราธิวาสผ่านศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต.ในการสร้างสนามใหม่ ขณะที่ยะลาจะได้งบประมาณ 80 ล้านบาทเพื่อปรับปรุงสนาม

ไม่ใช่เพียงแค่โซนภาคใต้เท่านั้นที่มีผู้ชมล้นหลาม ฤดูกาลที่แล้วจากการแข่งขันกว่า 1,200 นัด มีผู้ชมรวมกว่า 6,000,000 คน และมีผลให้มีเงินหมุนเวียนในลีกภูมิภาคกว่า 1,000 ล้านบาท และใน 4 ฤดูกาลที่ผ่านมา มีการลงทุนและเงินหมุนเวียนในธุรกิจกว่า 10,000 ล้านบาท