สนามเลือกตั้งดอนเมือง
สนามเลือกตั้ง กทม.ครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์เคาะให้ "อี้" หรือนายแทนคุณ จิตต์อิสระ เป็นว่าที่ผู้สมัครในนามของพรรค โดยมีเหตุผลสำคัญอยู่ที่การทำงานในพื้นที่มาโดยตลอด ขณะที่พรรคเพื่อไทย ชี้ขาดด้วยมติเอกฉันท์ให้ "แซม" หรือนายยุรนันท์ ภมรมนตรี ลาออก และลงสมัครรับเลือกตั้งในนามของพรรค เพื่อรักษาเก้าอี้ ส.ส.ของพรรคไว้
"อี้แทนคุณ" นับว่ามีทุนทางสังคมไม่น้อยทั้งที่เคยเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ และเป็นดารานักแสดง รวมถึงยังเป็นบุคคลที่พรรคประชาธิปัตย์ให้การสนับสนุนที่จะทำงานการเเมือง เพราะหลังตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในนามของพรรค ซึ่งแม้จะแพ้การเลือกตั้ง แต่ก็มอบหมายงานให้รับผิดชอบแบบไม่ทิ้งห่างไปไหน
ไม่ต่างกับ "แซม ยุรนันท์" ซึ่งก่อนก้าวเข้าสู่วงการเมือง "ยุรนันท์ ภมรมนตรี" เป็นดานักร้องชื่อดัง และหลังเข้าสังกัดพรรคไทยรักไทย ก็นับเป็นบุคคลสำคัญในกลุ่ม ส.ส. กทม. ด้วยความใกล้ชิดกับ น.ต.ศิธา ทิวารี ที่เป็นสายตรงนายพานทองแท้ ชินวัตร และใกล้ชิดคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่เป็นแกนนำกลุ่มตัวจริง
เมื่อเทียบคุณสมบัตินับว่า บุคคลทั้ง 2 ต่างก็มีโอกาสไม่น้อยไปกว่ากัน การเลือกตั้ง ส.ส.ในปี 2548 "แซม ยุรนันท์" ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งแรก คว้าชัยชนะมาด้วยคะแนนกว่า 40,000 คะแนน แต่ปี 2550 การเลือกตั้ง ส.ส.แบบเขตใหญ่ 3 ผู้สมัครของพรรคพลังประชาชน ซึ่งมีนายยุรนันท์อยู่ด้วย กลับแพ้การเลือกตั้งให้กับพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะได้คะแนนถึง 90,000 กว่าคะแนนก็ตาม และในปี 2552 พรรคยังพลิกผันให้ลงสมัครผู้ว่าฯกทม. ซึ่งได้คะแนนมาครองที่ 600,000 กว่าคะแนน แต่คู่แข่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้ไปเกือบล้านคะแนนทีเดียว
ส่วน "อี้แทนคุณ" ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งแรก ปี 2554 โดยแพ้นายการุณ โหสกุล ร่วม 8,000 คะแนน ท่ามกลางกระแสที่ว่าคู่แข่งคู่นี้ถูกวางภาพลักษณ์ไว้ต่างกัน ส่งผลให้การแข่งขันรุนแรง และจบลงที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งมีคำสั่งตัดสิทธิ์ "เก่ง การุณ" ด้วยเหตุปราศรัยให้ร้าย "อี้ แทนคุณ" ทำให้การแข่งขันครั้งนี้ ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นสนามแข่งตัวแทน ซึ่งไม่เพียงแค่ ตัวผู้สมัครของทั้ง 2 พรรค แต่ยังหมายถึงการแข่งขันของผู้สนับสนุนหลัก คือระหว่างคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จากฝั่งพรรคเพื่อไทย กับนายกรณ์ จาติกวณิช จากฟากของพรรคประชาธิปัตย์อีกด้วย