ผู้ค้าย่านราชประสงค์ เรียกร้องให้กลุ่มนปช.ชุมนุมอย่างสงบ
การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. บริเวณย่านราชประสงค์ วันพรุ่งนี้ (19 พ.ค.2556) ทำให้ผู้ค้าบางรายตัดสินใจหยุดขายสินค้า และมีลูกค้าบางคนไม่มาซื้อสินค้า เนื่องจากเกรงจะเกิดความรุนแรง และจราจรติดขัด
แต่บางรายที่เชื่อว่า การชุมนุมจะเป็นไปอย่างสงบและใช้เวลาไม่นาน จึงตัดสินใจมาขายสินค้า แม้จะขายไม่ดีเหมือนช่วงปกติ
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว ระบุว่า ผลกระทบจากการชุมนุมขึ้นกับจำนวนผู้มาชุมนุมและระยะเวลาที่ชุมนุม หากใช้เวลาไม่นานจะไม่กระทบ
สำหรับศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นายศกร ทวีสิน ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ (19 พ.ค.2556) เปิดให้บริการลูกค้าตามปกติ เพราะเชื่อว่าการชุมนุมจะไม่รุนแรง ทำให้มาตรการรักษาความปลอดภัยจึงอยู่ในระดับปกติ
ด้านนายกุฎาธาร นาควิโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ กล่าวว่า ห้างฯจะเปิดบริการตามปกติ เพราะเชื่อว่า การชุมนุมจะไม่ยืดเยื้อ หรือเกิดความรุนแรง
ขณะที่สมาคมผู้ประกอบการวิสาหกิจย่านราชประสงค์ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้กลุ่ม นปช.ชุมนุมอย่างสงบและไม่ยืดเยื้อ เพราะจะสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์และเศรษฐกิจของประเทศ หลังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่อาจเป็นกลุ่มเดียวกับย่านราชประสงค์ มีแนวโน้มลดลง เพราะไม่มั่นใจในเสถียรภาพการเมืองไทย โดยย่านการค้าบริเวณนี้ มีนักท่องเที่ยวมาจับจ่ายสินค้ากว่าวันละ 27,000 คน
ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณนี้ สมาคมฯ ได้ขอความร่วมมือตำรวจ จำกัดขอบเขตผู้ชุมนุมในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ ตั้งแต่กลางถนนราชดำริ ห่างจากสี่แยกราชประสงค์ ไปทางประตูน้ำ 10 เมตร พร้อมตั้งแผงเหล็กกั้นป้องกันผู้ชุมนุมและใช้สำหรับสัญจรตลอดแนว 2 ฝั่ง ฝั่งละ 1 ช่อง คือ บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์และเกษร พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยอำนวยความสะดวก ตั้งแต่ 06.00 น.
สำหรับพื้นที่ราชประสงค์ เคยได้รับผลกระทบ จากการชุมนุมในปี 2553 ซึ่งประเมินว่าสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจกว่า 145,000 ล้านบาท