ชาวนครศรีฯหวั่นอุปสรรคขึ้นทะเบียน
คราบสีดำคล้ายสนิม ที่เกาะแผ่นทองคำกลีบบัวคว่ำบัวหงาย และคราบสนิมคล้ายน้ำทอง ที่ย้อยลงมาติดปล้องไฉน องค์พระบรมธาตุเจดีย์ จ.นครศรีธรรมราช สร้างความกังวลให้ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า อาจเป็นอุปสรรคต่อการผลักดันองค์พระบรมธาตุเจดีย์ จ.นครศรีธรรมราช เป็นมรดกโลก อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการบูรณะพระธาตุ ปี 2530 มองว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับองค์พระบรมธาตุเจดีย์หลายจุด ทั้งแผ่นทองคำกลีบบัวคว่ำบัวหงายขึ้นสนิม คราบสนิมที่เกาะปล้องไฉน และสีขององค์พระบรมธาตุเจดีย์ ที่เปลี่ยนจากสีเดิมเป็นสีขาว อาจทำให้องค์การยูเนสโกไม่พิจารณาขึ้นทะเบียนมรดกโลก
วัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงขององค์พระบรมธาตุเจดีย์ ไม่มีผลต่อการพิจารณา เพราะองค์พระบรมธาตุเจดีย์ เป็นปูชนียสถานมีองค์ประกอบครบถ้วน ส่วนสิ่งที่เปลี่ยนแปลงและชำรุด เกิดจากความเก่าแก่ขององค์พระบรมธาตุ สอดคล้องกับผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มองว่า ข้อกังวลชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ไม่เป็นอุปสรรคการขึ้นทะเบียนมรดกโลก เพราะยูเนสโกขึ้นบัญชีรองรับแล้วบางส่วน แต่สิ่งที่น่ากังวลเป็นส่วนของทองคำขึ้นสนิม ที่ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริง
องค์พระบรมธาตุเจดีย์ จ.นครศรีธรรมราช ถูกผลักดันจากชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช สู่การเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2552 ขณะนี้คณะกรรมการมรดกโลกหรือยูเนสโก ได้รองรับขึ้นบัญชีรอการพิจารณาเป็นมรดกโลก เพราะมีคุณสมบัติครบตามหลักเกณฑ์ และอีก 1 เดือนข้างหน้า คณะกรรมการยูเนสโกจะพิจารณาองค์พระบรมธาตุเจดีย์เข้าสู่มรดกโลก ที่ประเทศกัมพูชา พร้อมจัดทำเอกสารฉบับภาษาอังกฤษบอกถึงความสำคัญ และยูเนสโกจะลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง หลังจัดทำเอกสารเสร็จสิ้น โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ซึ่งปัจจัยที่อาจทำให้องค์พระบรมเจดีย์ ไม่ได้รับการรองรับเป็นมรดกโลก คือ องค์พระบรมธาตุขาดการอนุรักษ์ตามแบบดั่งเดิม ทำให้เสื่อมค่า ในประเด็นนี้จึงเป็นที่กังวลของชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช