ผู้ว่า ธปท.สั่งตรวจสอบตัวเลขจีดีพีของ สศช.
ที่มาของอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ซึ่งมีส่วนประกอบสำคัญ คือ การบริโภคในประเทศ, การลงทุนเอกชน และรายได้สุทธิการค้าระหว่างประเทศที่ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ประกาศประจำไตรมาสแรกของปีนี้ ขยายตัวเพียงร้อยละ 5.3 จึงปรับลดประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั้งปี พร้อมกังวล ปัญหาค่าเงินบาทแข็ง จะกระทบต่อเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังด้วย
ขณะที่ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า ตัวเลขประมาณการนำเข้า และส่งออก ของแบงก์ชาติ กับตัวเลขของ สศช. ใกล้เคียงกัน จึงไม่สะท้อนการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ พร้อมตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับ ตัวเลขอุปโภคบริโภค การลงทุน ภาคเอกชน รวมทั้ง อุปสงค์ในประเทศ ซึ่งแตกต่างกันมาก และอาจขัดแย้งกับดัชนีเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น การปล่อยสินเชื่อธนาคารพาณิชย์, หนี้ภาคครัวเรือน และความเชื่อมั่นธุรกิจ ซึ่งยังขยายตัวสูง จึงสั่งตรวจสอบข้อมูลเชิงคุณภาพ และคาดว่าจะได้ข้อสรุป เพื่อส่งให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ใช้ประกอบการพิจารณากำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ในวันที่ 29 เดือนนี้
ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สนับสนุนแนวทางการใช้ดอกเบี้ยนโยบาย มาบรรเทาเงินบาทแข็งค่า เพื่อให้แข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้ พร้อมปฏิเสธว่า ไม่ได้ใช้ สศช.กดดันแบงก์ชาติ เพื่อให้ลดดอกเบี้ยนโยบาย นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ได้ทบทวนเป้าหมายส่งออกปีนี้ลดลงเหลือร้อยละ 7-7.5 จากเดิมร้อยละ 8-9 หลังได้รับรายงานจากทูตพาณิชย์ทั่วโลกว่า ภาวะส่งออกไปยังตลาดสำคัญลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยง รวมทั้งการแข็งค่าของเงินบาท