ปัญหาพิพาททะเลจีนใต้ขยายวงต่อเนื่อง

ปัญหาพิพาทในทะเลจีนมีแนวโน้มจะขยายวงออกไป ส่งผลให้ความตึงเครียดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มสูงขึ้น หลายชาติที่เกี่ยวข้องกับปัญหาพิพาทในทะเลจีนใต้ต่างประกาศแผนการส่งเรือลาดตระเวนเข้าไปในทะเลจีนใต้ เพื่อปกป้องสิทธิ และอธิปไตยที่ต่างฝ่ายต่างกล่าวอ้าง นอกจากนี้ ยังมีการประท้วงที่เกี่ยวเนื่องกับปัญหาทะเลจีนใต้เกิดขึ้นทุกวัน

ชาวไต้หวันรวมตัวในกรุงไทเปเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างไต้หวันกับญี่ปุ่น เรื่องพื้นที่ทำประมงบริเวณเกาะเตียวหยูในทะเลจีนใต้ หรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่าเกาะเซนคากุอย่างจริงจัง และเรียกร้องให้รัฐบาลไต้หวัน ขับไล่ญี่ปุ่นออกไปจากพื้นที่พิพาท ขณะที่วันนี้รัฐมนตรีต่างประเทศของไต้หวันยืนยันเรื่องอธิปไตยของไต้หวันเหนือเกาะเตียวหยู แต่จะแก้ปัญหากับญี่ปุ่นอย่างสันติ ขณะเดียวกัน ชาวจีนบนเกาะฮ่องกงออกมาประท้วงใกล้กับสถานกงสุลสหรัฐ เพื่อแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของเกาะเตียวหยู ซึ่งจีนแผ่นดินใหญ่อ้างสิทธิ

ญี่ปุ่นเข้าครอบครองเกาะเตียวหยูหรือเกาะเซนคากุในทะเลจีนใต้มาตั้งแต่ปี 2515 ที่ผ่านมาญี่ปุ่น จีน และไต้หวันที่ต่างอ้างสิทธิเหนือเกาะแห่งนี้ ตกลงใช้วิธีการใช้ประโยชน์พื้นที่ และทรัพยากรโดยรอบเกาะร่วมกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่ง แต่ความตึงเครียดเริ่มก่อตัวอีกครั้งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เมื่อกองกำลังทางทะเลของญี่ปุ่นจับตัวลูกเรือลากของจีน ที่ชนกับเรือลาดตระเวนญี่ปุ่นในเขตเกาะเตียวหยู ขณะที่ญี่ปุ่นกล่าวจีนว่าละเมิดข้อตกลงด้วยการขุดบ่อแก๊สธรรมชาติในบริเวณโดยรอบเกาะ

ความตึงเครียดไม่ได้จำกัดวงเฉพาะชาติในเอเชียตะวันออกเท่านั้น แต่ความตึงเครียดจากการอ้างสิทธิในในทะเลจีนใต้ ระหว่างจีน, ไต้หวัน กับชาติในอาเซียน 4 ชาติ คือเวียดนาม ฟิลิปปินส์ บรูไนและมาเลเซีย ทวีความตึงเครียดขึ้นกว่าเก่า หลังจากที่เวียดนามจัดการซ้อมยิงกระสุนจริงในทะเลจีนใต้ แม้ว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนจะไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองที่ชัดเจน

แต่ล่าสุดวันนี้ จีนประกาศจะจัดการซ้อมรบทางทะเลในทะเลจีนใต้เป็นเวลา 3 วัน โดยอ้างวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องหมู่เกาะและปกป้องเส้นทางเดินเรือทางทะเลที่จีนอ้างสิทธิ นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าจีนจะเพิ่มกองกำลังลาดตระเวนทางทะเลจาก 9,000 นายเป็น 15,000 นาย และเพิ่มเรือลาดตระเวณจาก 350 ลำ เป็น 520 ลำ ภายในปี 2563

ก่อนหน้านี้ ไต้หวันก็ประกาศว่าจะเดินหน้าส่งกองเรือลาดตระเวนไปยังเกาะไท่ปิง ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะสแปรตลีย์ ที่หลายประเทศอ้างสิทธิ ด้านฟิลิปปินส์ซึ่งเสียเปรียบเรื่องอาวุธยุทโปกรณ์ และต้องหวังพื่งสหรัฐช่วยหนุนหลังเรื่องข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ประกาศจะส่งเรือธงเข้าไปลาดตระเวนในน่านน้ำพิพาทเช่นกัน โดยกระทรวงกลาโหมยืนยันว่าเป็นการลาดตระเวนตามกำหนดการที่วางไว้อยู่แล้ว ไม่เกี่ยวข้องกับคำประกาศของทางการจีนที่จะส่งเรือเข้ามาลาดตระเวนในพื้นที่เดียวกันแต่อย่างใด

มีรายงานว่าเรือธงที่ฟิลิปปินส์จะส่งเข้าไปลาดตระเวนนั้น เป็นเรือรบเก่าของสหรัฐในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ส่งมอบให้กองทัพเรือฟิลิปปินส์ใช้งานต่อ ซึ่งเรือลำนี้จัดว่าเป็นหนึ่งในเรือธงที่เก่าที่สุดในโลกที่ยังใช้การอยู่