ด้วยสภาพการเมืองของทั้ง 2 พรรคการเมืองใหญ่ หรือพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย ต่างตกอยู่ในสภาวะที่มีจุดอ่อนเกิดขึ้น โดยพรรคประชาธิปัตย์ อยู่ในสถานการณ์ที่ลูกพรรคเสนอให้มีการปฏิรูปพรรค เพื่อบูรณาการศักยภาพทางการเมือง ส่วนพรรคเพื่อไทย พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลกำลังถูกทวงถามถึงการแก้ปัญหาให้ประชาชนแทนการขับเคลื่อนร่างกฎหมาย ที่กลายเป็นคำถามถึงเป้าหมายการเมือง เพื่อช่วยเหลือพวกพ้อง
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้งซ่อม ส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวยอมรับว่า นอกจากจะเน้นยุทธศาสตร์ในการลงพื้นที่หาเสียงทุกตารางนิ้ว และการประสานส.ส.,สก.และสข.ของพรรค เพื่อร่วมลงพื้นที่ขอคะแนนสนับสนุนแล้ว อาจต้องเน้นคุณสมบัติการทำงานของผู้สมัคร พร้อมกับการชี้จุดอ่อนของคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นผลงานในฐานะพรรค และตัวบุคคล ในฐานะผู้สมัครด้วย
ขณะที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ระบุที่จะไม่ประมาทในการหาเสียงขอคะแนนสนับสนุน แม้จะเป็นพื้นที่ทางการเมืองของพรรคมาก่อนก็ตาม พร้อมย้ำที่จะนำนโยบายของพรรค ซึ่งได้รับการขับเคลื่อนโดยรัฐบาลมานำเสนอ เพื่อขอโอกาสเข้าไปเป็นปากเป็นเสียงและรักษาสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ แทนคนในพื้นที่