สกย.ไม่ตัดสิทธิ์เกษตรกรไม่พร้อมปลูกยางปีนี้
นายวิทย์ ประทักษ์ใจ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง หรือ สกย. กล่าวว่าราคากล้ายางที่พุ่งสูงในขณะนี้ ทำให้ให้เกษตรกรบางรายที่ลงทะเบียนปลูกยางในพื้นที่ใหม่เฟสแรกจำนวน 200,000 ไร่ ขาดเงินทุนสำหรับซื้อกล้ายาง แม้ว่า สกย.จะสนับสนุนการจัดซื้อกล้ายางที่ต้นละ 18 บาท แต่เกษตรกรยังต้องจ่ายส่วนต่างค่อนข้างสูง ทั้งนี้ สกย.จะไม่ตัดสิทธิ์เกษตรกรโดยจะเลื่อนให้ไปปลูกในปีถัดไปได้ และให้เกษตรกรที่มีความพร้อมปลูกแทน
สำหรับการแก้ปัญหากล้ายางขาดแคลนในโครงการปลูกยางในพื้นที่ใหม่เฟสแรก สกย.ได้เปิดประมูลไปแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ไม่ได้รับความสนใจจากเอกชนเข้าร่วมประมูล เนื่องจากราคากลางที่กำหนดต่ำกว่าราคาตลาดซึ่งอยู่ที่ประมาณต้นละ 40-50 บาท ซึ่งบอร์ด สกย. เห็นชอบให้เกษตรกรหาซื้อพันธุ์ยางเอง และ สกย.สนับสนุนกล้ายางต้นละ 18 บาท หรือจ่ายเงินให้เกษตรกรในรูปของคูปองเพื่อนำไปซื้อกล้ายางในแปลงเพาะพันธุ์ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมวิชาการเกษตร โดยจะเปิดให้ผู้ผลิตกล้ายางมาลงทะเบียนกับ สกย.ในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะทำให้เกษตรกรซื้อกล้ายางในราคาถูก
ด้านนางเครือวัลย์ ดวงสอน เกษตรกร หมู่ 2 ตำบลนาเดื่อ อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม กล่าวว่า ได้ลงลงทะเบียนปลูกยางพาราไว้กับ สกย.จำนวน 15 ไร่ แต่ไม่สามารถลงทุนปลูกยางในปีนี้ได้เนื่องจากกล้ายางที่มีราคาสูงถึงต้นละ 60-70 บาท จากการสอบถามราคากล้ายางที่ร้านค้าส่งในจังหวัดนครพนม พบว่า กล้ายางขนาด 20 เซ็นติเมตร ต้นละ 45 บาท, ขนาด 25 เซนติเมตร ต้นละ 50 บาท ขนาด 30 เซนติเมตร ต้นละ 55 บาท ขณะที่ร้านขายปลีกทั่วไปพบว่า กล้ายางติดตาในถุงราคาต้นละ 85 บาท และยางชำ ต้นละ 65 บาท