นักวิเคราะห์มองการเมืองอิหร่านภายใต้การนำของ “ฮัสซาน โรว์ฮานี่” จะไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิมมากนัก
นักวิเคราะห์หลายคนมองตรงกันว่าความพยายามปฏิรูปของนายโรว์ฮานี่คงจะเป็นไปได้ยาก อย่างดีที่สุดคือการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากอำนาจที่แท้จริงอยู่ในมือของอยาโตเลาะห์ อาลี คาเมนาอี้ ผู้นำสูงสุดและกองกำลังปฏิวัติ ที่ควบคุมการบริหารประเทศในทุกระดับ
ทั้งนี้ชัยชนะของนายโรว์ฮานี่ที่ได้คะแนนเกินร้อยละ 50 ทิ้งห่างคู่แข่งแบบไม่เห็นฝุ่น สะท้อนให้เห็นว่าชาวอิหร่านต้องการผู้นำสายกลาง ซึ่งมีแนวทางปฏิรูปจึงเทคะแนนให้นายโรว์ฮานี่ซึ่งเป็นผู้สมัครสายกลางเพียงรายเดียว เขาให้สัญญากับประชาชนว่าหากชนะการเลือกตั้ง จะหาทางลดแรงกดดันจากนานาชาติ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชาติตะวันตก
นายโรว์ฮานี่ ได้รับการชื่นชมจากนานาชาติว่าเป็นผู้ที่มีประสบการณ์สูงทั้งในด้านการทูต และการเมือง ชัยชนะของเขาสะท้อนให้เห็นว่าชาวอิหร่านเบื่อหน่ายกับนโยบายที่ผ่านมาในยุคของประธานาธิบดีมัคมูธ อาห์มาดีนีจ๊าด ที่ปกครองประเทศยาวนานถึง 8 ปี ที่มักจะขัดแย้งและมีท่าทีเป็นอริกับชาติตะวันตกมาโดยตลอด ซึ่งนโยบายของนายโรว์ฮานี่ตรงข้ามกับแนวทางของนายอาห์มานีดีจ๊าด ที่ต้องการลดแรงกดดันจากนานาชาติและผูกมิตรกับชาติตะวันตกมากขึ้น ดังนั้นการขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำคนใหม่ของนายโรว์ฮานี่จึงเป็นความหวังของนานาชาติ ที่เชื่อว่าอิหร่านจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านนิวเคลียร์ให้เป็นมิตรมากขึ้น
แต่นายเบนจามิน เนธันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอลเตือนนานาชาติว่าไม่ควรผ่อนคลายแรงกดดันที่มีต่ออิหร่าน เนื่องจากอำนาจสูงสุดอยู่ที่อยาโตเลาะห์ อาลี คาเมนาอี้ ดังนั้นคำพูดของนายโรฮานี่เป็นแค่ภาพลวงตา สิ่งที่จะพิสูจน์คำพูดของว่าที่ผู้นำอิหร่านได้ก็คือการกระทำ