นายพินิจ งามพริ้ง ผู้สมัครสมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยได้ทำหนังสืออุทธรณ์ถึง เซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานฟีฟ่า ใจความสำคัญแยกได้เป็น 3 ข้อถึงสาเหตุที่ไม่อยากให้ใช้ธรรมนูญฟีฟ่าในการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯว่า ข้อแรก ที่ผ่านมายังไม่มีการถกเถียงหาข้อสรุปในหมู่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับสาระสำคัญในการร่างธรรมนูญ โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกนายกสมาคมฟุตบอล และสมาคมเพิ่งตกลงให้มีการศึกษาร่างธรรมนูญฉบับใหม่เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ข้อ 2 กำหนดที่ให้มีการลงมติผ่านธรรมนูญฉบับใหม่ใกล้กับวันที่หมดวาระ ข้อสุดท้ายวงการฟุตบอลไทยไม่เห็นด้วยกับมาตรา 21 ที่เกี่ยวกับจำนวนที่มาของสมาชิกที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง
นอกจากนี้ นายพินิจยังแสดงความกังวลในหนังสือที่ทำถึงประธานฟีฟ่า ระบุว่า นายวรวีร์ มีความใกล้ชิดกับฟีฟ่าเพื่อร่างธรรมนูญใหม่ด้วย แต่ข้อมูลจากสมาคมฟุตบอลได้มีการแก้ข้อบังคับลักษณะการปกครองของสมาคมฟุตบอลเพื่อใช้ธรรมนูญฟีฟ่า เริ่มนำข้อมูลให้ที่ประชุมใหญ่รับทราบในวันที่ 31 มีนาคม 2552 และปี 2553 ที่ประชุมใหญ่ได้มีมติอนุมัติให้สภากรรมการเป็นผู้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงการเลือกตั้งตามธรรมนูญฟีฟ่า
จากนั้นผู้บริหารสมาคมฟุตบอลจึงไปดำเนินการตามที่ที่ประชุมใหญ่มีมติอนุมัติ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฟีฟ่าได้เดินทางมาประชุมแก้ไขข้อบังคับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2553 จนมีการรายงานความคืบหน้าของการดำเนินการเรื่องนี้ตลอดมาในที่ประชุมสภาทุกปี จนถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 ผู้แทนจากฟีฟ่า นำโดยนายเธียรี่ เลอเกอเนส มาสรุปการแก้ไขข้อบังคับจึงนำไปสู่การอนุมัติของที่ประชุมใหญ่ฟีฟ่าในวันที่ 31 พฤษภาคม ที่สาธารณรัฐมอริเชียส
หนังสือที่ฟีฟ่าส่งมาถึงสมาคมฟุตบอลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ระบุว่า ให้สมาคมฟุตบอลใช้ธรรมนูญฟีฟ่าเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอล และให้สโมสรพัทยา เอฟซี ถอนฟ้อง หากไม่ทำตามให้สมาคมฟุตบอลถอนพัทยา เอฟซี ออกจากสโมสรสมาชิก ซึ่งสมาคมจะรายงานถึงฟีฟ่า และอาจจะดำเนินการถอด พัทยา เอฟซี ตามข้อบังคับของสมาคมที่ร่างในปี 2546 ซึ่งสโมสรพัทยา เอฟซี นั้นท่าทีประกาศตลอดมาว่าจะไม่มีการถอนฟ้องสมาคมฟุตบอลในการนำวาระลงมติรับธรรมนูญฟีฟ่า ซึ่งสมาคมฟุตบอลจะต้องชี้แจงต่อฟีฟ่า และฟีฟ่าจะนำเรื่องนี้เข้าสู่คณะกรรมการฉุกเฉินเพื่อลงมติแบนสมาคมฟุตบอลไทย