พลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวยอมรับถึงเหตุการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ว่ามีความรุนแรงขึ้น ซึ่งขณะนี้พบว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ มีอยู่ 3 กลุ่มคือ กลุ่มที่ออกมาเจรจา กลุ่มกลางๆ ที่คอยดูว่า ฝ่ายไหนชนะไปทางนั้น และกลุ่มต่อต้านซึ่งเป็นกลุ่มที่ออกมาปฏิบัติการอยู่ในเวลานี้ มีประมาณ 2,000-3,000 คน
สำหรับแผนการในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ของรัฐบาลหลังมีการปรับ ครม.และนายกรัฐมนตรี นั่งควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พันเอกจรูญ อำภา ที่ปรึกษาสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. แสดงความเชื่อมั่นว่า จะมีความกระชับและเป็นเอกภาพในการแก้ปัญหาดีขึ้น ซึ่งจะสามารถประสานความร่วมมือได้กับทุกฝ่ายและรวดเร็วขึ้น
ส่วนข้อเสนอ 7 ข้อของกลุ่มบีอาร์เอ็นนั้น ขณะนี้สมช.อยู่ในระหว่างการปรึกษาหารือ โดยได้นำข้อเรียกร้องของกลุ่มบีอาร์เอ็นไปหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่มีผลกระทบต่อการเรียกร้อง เพื่อหาข้อยุติให้ลงตัวมากที่สุด โดยหลังเดือนรอมฎอนจะมีคำตอบต่อข้อเสนอทั้ง 7 ข้อ
ทั้งนี้กล่าวยอมรับถึงการเดินหน้าพูดคุยเพื่อสันติภาพที่จะยังสานต่อ ในขณะเดียวกันยืนยันในความจำเป็นที่ต้องมีการพูดคุยกับกลุ่มต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ก่อเหตุในพื้นที่ ในทางลับคู่ด้วย
ส่วนเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ที่ได้สูญเสียนายทหาร 8 นาย ที่อำเภอกรงปินัง จ.ยะลา พันเอกธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวแถลงพร้อมด้วยผู้แทนจากส่วนราชการต่างๆ ว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวกำลังพลที่เสียชีวิตทั้ง 8 นาย โดยขอสดุดีทหารกล้าทั้ง 8 นายที่สละชีวิตยอมแลกเพื่อความสงบสุขของประชาชนผู้ที่บริสุทธิ์ในพื้นที่ และขอชื่นชมการทำงานของทุกคนและทุกภาคส่วนที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อย่างจริงใจ