ชี้วัฒนธรรมกรีซ
การประท้วงที่เกิดขึ้นรุนแรงไม่เว้นวันหลังขอความช่วยเหลือจาก IMF และธนาคารแห่งยุโรปนั้น นอกจากจะโจมตีรัฐบาล ผู้ประท้วงยังกล่าวโทษต่างชาติ ซึ่งนักสังคมศาสตร์ระบุว่ามีสาเหตุจากวัฒนธรรมยาวนานของกรีซที่ชอบโยนบาปให้คนอื่น
กรีซเป็นแหล่งอารยธรรมโบราณ ดังนั้นตามปกติก็จะคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งชาวกรีกก็จะต้อนรับเป็นอย่างดี แต่ขณะนี้ที่กำลังรุมเร้าด้วยวิกฤติหนี้สินล้นพ้นตัวจนต้องขอให้ธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เข้ามาช่วยกอบกู้ สายตาที่เคยมองชาวต่างชาติอย่างมิตรกลับกลายเป็นชัง อย่างที่สะท้อนออกมาในโปสเตอร์ ซึ่งทั้งนางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และนายนิโกลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ต่างถูกเติมหนวดเป็น "อดอล์ฟ ฮิตเลอร์" อดีตผู้นำนาซีเยอรมันที่ก่อสงครามโลกครั้งที่ 2
นอกจากนี้ รัฐสภาและรัฐบาลของกรีซเองต่างก็ตกเป็นจำเลยว่าบริหารประเทศผิดพลาด หนำซ้ำยังรวมหัวใช้การแปรรูปเพื่อเปิดทางให้ต่างชาติเข้ามายึดกุมกิจการ ซึ่งล่าสุดบริษัท "ด้อยช์ เทเลคอม"จากเยอรมนีได้ประกาศว่า จะเพิ่มการซื้อหุ้นในบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของกรีซที่มีอยู่แล้วให้เป็นร้อยละ 40 ซึ่งชาวกรีซกำลังประท้วงคัดค้าน
นักสังคมศาสตร์ในอังกฤษวิเคราะห์ว่าเป็นธรรมดาของยามวิกฤติทำให้ชาวกรีซเกิดความรู้สึกชาตินิยม ประกอบกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวกรีซ ที่ชอบกล่าวโทษคนอื่นไว้ก่อน
นักสังคมศาสตร์อังกฤษตั้งคำถามว่า แล้วเมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งบริษัทจากจีนได้รับสัมปทาน 35 ปีให้เข้าบริหารจัดการตู้คอนเทนเนอร์สินค้าที่ท่าเรือยักษ์ใหญ่ ทำไมชาวกรีซไม่ประท้วง