ไทยเตรียมพร้อมรองรับเขตการค้าเสรี

นายวีระชัย นพสุวรรณวงศ์ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวในงานสัมมนา “เตรียมพร้อม รองรับ ปรับตัว FTA ไทย-EU และไทย-เอฟต้า” ถึงความคืบหน้าในการจัดทำความตกลงการค้าเสรีกับภูมิภาคยุโรป ทั้งในกรอบไทยกับสหภาพยุโรป (EU) และไทยกับสมาคมการค้าแห่งยุโรป หรือเอฟต้า ว่า ร่างกรอบการเจรจาทั้ง 2 ผ่านความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการกำกับดูแลการจัดทำความตกลงการค้าเสรี ภายใต้คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และเตรียมเสนอต่อรัฐบาลใหม่พิจารณาและขอความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว

 

ผลจากการทำความตกลงในครั้งนี้จะทำให้กลุ่มสินค้าอาหารและเกษตรแปรรูปของไทยได้ประโยชน์จากอัตราภาษีที่ลดลง สามารถส่งออกสินค้าได้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ส่วนการนำเข้าสินค้า จะทำให้ไทยนำเข้าวัตถุดิบและเครื่องจักรกลมีคุณภาพมากขึ้น และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ประกอบการ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการศึกษากฎระเบียบของ EU เช่น เรื่อง สุขอนามัยพืชและสัตว์ สารเคมี

 

สำหรับผู้ประกอบการที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการทำความตกลงการค้าเสรีกับภูมิภาคยุโรปทั้งไทยกับ EU และไทยกับเอฟต้า สามารถขอความช่วยเหลือจากกองทุน FTA ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรมได้

 

ปัจจุบัน EU เป็นคู่ค้าและตลาดส่งออกที่สำคัญ โดยเป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของไทย รองจากอาเซียน ญี่ปุ่น และจีน มีมูลค่าการค้าเฉลี่ยไทยกับ EU ปี 2551-2553 คิดเป็นมูลค่า 34, 554 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่เอฟต้าเป็นคู่ค้าสำคัญอันกับที่ 17 ของไทย มูลค่าเฉลี่ยตั้งปี 2551-2553 คิดเป็นมูลค่า 7,487 ล้านเหรียญสหรัฐ