สาเหตุความรุนแรงกับการเลือกตั้ง

ความต้องการจำนวนที่นั่ง ส.ส.เพื่อเป็นเงื่อนไขในการจัดตั้งรัฐบาล ถูกมองจากนักวิชาการด้านการเมืองว่า เป็นปัจจัยที่ทำให้สนามเลือกตั้งครั้งนี้มีความรุนแรงเกิดขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่พื้นที่ที่ตำรวจต้องจับตามองเป็นพิเศษว่า จะมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอีกในช่วงการหาเสียงโค้งสุดท้าย คือ จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี และ สมุทรปราการ

 

 

นายซาการียา หะมะ คือหัวคะแนนคนล่าสุดที่ถูกลอบทำร้ายบาดเจ็บช่วงโค้งสุดท้ายเลือกตั้ง โดยถูกยิงขณะเดินทางกลับจากประชุมกับผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย จังหวัดนราธิวาส เมื่อคืนนี้ ย้อนหลังไปหนึ่งวันนายไสว หนูเทศ หรือ กำนันเผือก อดีตกำนันในจังหวัดสุพรรณบุรีหัวคะแนนพรรคเพื่อไทยได้ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต แม้จะพยายามหลบหนีเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง

เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องและมีแนวโน้มสูงขึ้น ดร.สัมพันธ์ เตชะอธิก าจารย์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มองว่า มาจากความพยายามของพรรคการเมืองที่ต้องการกวาดที่นั่ง ส.ส.ให้มากที่สุดเพื่อเป็นเงื่อนไขจัดตั้งรัฐบาลกลุ่มหัวคะแนนที่กุมฐานเสียงส่วนใหญ่จึงตกเป็นเป้าหมายถูกปองร้าย โดยเฉพาะเขตเลือกตั้งที่ฐานคะแนนแต่ละฝ่ายใกล้เคียงกัน โดยนครสวรรค์ ลพบุรี และ สมุทรปราการ เป็นพื้นที่ที่ตำรวจจับตามองเป็นพิเศษ และ ส่งกำลังเข้าไปดูแลใกล้ชิด นอกเหนือจากพื้นที่อื่น เพราะที่ผ่านมาเกิดเหตุยิงผู้สมัคร ส.ส. และหัวคะแนนคนสำคัญมาแล้ว

 

 

หลังประกาศให้มีการเลือกตั้งมีคดีทำร้ายหัวคะแนนและผู้สมัคร ส.ส.ที่ตำรวจเชื่อว่า เชื่อมโยงกับปมขัดแย้งในสนามเลือกตั้งแล้วหลายคดี เริ่มตั้งแต่ที่นายประชา ประสพดี ส.ส.พรรคเพื่อไทย จังหวัดสมุทรปราการ ถูกยิงบาดเจ็บ ต้นเดือนพฤษภาคม

กลางเดือนมิถุนายนนายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช นายก อบจ.ลพบุรี ผู้สนับสนุนพรรคภูมิใจไทยถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตย่านชุมชนในกรุงเทพมหานคร จากนั้นคดีทำร้ายหัวคะแนนเกิดขึ้นแทบรายวัน แต่ส่วนใหญ่ยังไม่มีข้อสรุปของคดีที่ชัดเจน เพราะบางคดีเจ้าหน้าที่พบปมขัดแย้งส่วนตัว และอยู่ระหว่างสืบสวน

ขณะที่ในจำนวน7 คดี ที่เป็นข่าว ส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับหัวคะแนนพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย จำนวนนี้ตำรวจเชื่อว่า มีความเชื่อมโยงกันสองคดีคือ คดีนายประชา และ คดีนายสุบรรณ ซึ่งตำรวจได้ออกหมายจับผู้ต้องหาแล้วบางส่วน