ก่อนออกเดินทางนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อเรียกร้อง ของฝ่ายค้าน ที่ขอให้ถอนร่างกฎหมายนิรโทษกรรมออกจากสภาฯและหารือร่วมกันใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ว่ารัฐบาลไม่สามารถก้าวก่ายกระบวนการ พิจารณาของสภาได้ ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ขอความร่วมมือกลุ่มประชาชนที่จะออกมาชุมนุม ให้ชุมนุมอย่างสงบภายใต้กรอบของกฎหมาย โดยได้กับชับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดูแลสถานการณ์ไม่ให้เกิดปัญหา
นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าการชมนุมจะเป็นไปโดยสงบ และไม่อยากเห็นความรุนแรงเกิดขึ้น แต่อยากเห็นความปรองดอง ซึ่งทุกฝ่ายควรเปิดใจ และพร้อมดูแลประชาชนที่เดือดร้อนไม่ได้รับความเป็นธรรม ประเทศจะได้มีทางออกและต้องสนับสนุนเวทีของสภาให้ตัวแทนประชาชนนำปัญหามาพูดคุย
ขณะที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวย้ำจุดยืนที่พรรคคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะกฎหมายดังกล่าว มีการล้างความผิดผู้กระทำผิดกฎหมายอาญาที่มีความผิดรุนแรง และคดีหมิ่นสถาบันฯ ซึ่งคนทำผิดรุนแรงไม่ควรใช้ข้ออ้างการเมืองมาล้างความผิดด้วยการยกร่างกฎหมาย และเห็นว่าการสร้างปรองดองต้องเกิดความเห็นพ้องทุกฝ่าย ขณะเดียวกันก็เกิดความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการเผชิญหน้าระหว่างฝ่ายที่สนับสนุนและคัดค้าน จึงขอให้นายกรัฐมนตรี แสดงออกถึงภาวะผู้นำ ในการยับยั้งร่างกฎหมายดังกล่าว
สำหรับวาระกระทู้ถามสดในวันที่ 1 ส.ค.นั้น ฝ่ายค้าน นัดหมายประชุม ส.ส.วันที่ 31 ก.ค.นี้ ว่า จะนำกรณีคลิปสนทนาการเมือง มาตั้งกระทู้ถามสดหรือไม่ ซึ่งเห็นว่า เนื้อหาการสนทนามีความสำคัญ ที่ต้องตรวจสอบ ทั้งการพยายามขยายอำนาจแทรกแซงของกองทัพ ใช้อำนาจการเมืองและสายสัมพันธ์เข้าแสวงหาประโยชน์ในประเทศเพื่อนบ้านและการหาความชอบธรรมในออกกฎหมายนิรโทษกรรม