หลายหน่วยงานเร่งขจัดคราบน้ำมันรั่วไหล บริเวณอ่าวพร้าว คาดเสร็จภายใน1-2 วันนี้
นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ อธิบดีกรมเจ้าท่า ระบุว่า ขณะนี้มีคราบน้ำมันเหลือเพียงจุดเดียวคือ บริเวณอ่าวพร้าว ซึ่งคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ คราบน้ำมันส่วนใหญ่บริเวณนี้จะขจัดได้ และภายใน 1 สัปดาห์ จะสามารถขจัดคราบได้ทั้งหมด
ขณะเดียวกันกรมฯได้แจ้งความดำเนินคดีกับบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล เนื่องจากเป็นผู้ทำให้น้ำมันรั่วลงสู่ทะเล สร้างความเสียหายให้กับสิ่งแวดล้อม ,การท่องเที่ยว และการประมง ตามขั้นตอน และเป็นหลักประกัน หากบริษัทฯไม่รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น
ด้านนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. กล่าวว่า คราบน้ำมันขณะนี้อยู่ในวงจำกัดเพียง 50 เมตรจากฝั่ง
หลังเก็บกู้คราบน้ำมันได้หมดแล้ว จะเร่งฟื้นฟูชายหาดให้กลับมาสู่สภาพเดิม ส่วนคราบน้ำมันตามโขดหินจะใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดเพื่อชำระล้าง
ส่วนทรายที่ปนเปื้อนคราบน้ำมัน จะจัดเก็บไปบำบัด และเฝ้าติดตามต่อเนื่องไปหลายเดือน รวมทั้งดูแลเรื่องของการชดเชยให้กับผู้ได้รับผลกระทบ
ขณะที่ นายแพทย์ ปรีชา เปรมปรี ผู้อำนวยการ สำนักจัดการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค แนะนำให้ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงคราบน้ำมัน เลี่ยงพื้นที่ที่มีกลิ่นน้ำมันเข้าถึง รวมทั้งสวมหน้ากากอนามัย , แว่นตาป้องกันการระคายเคืองของดวงตา เนื่องจากน้ำมันมีสารไฮโดรคาร์บอน ซึ่งก่อให้เกิดอาการระคายเคืองได้ พร้อมหลีกเลี่ยงการบริโภคปลาที่เลี้ยงใกล้กับจุดเกิดเหตุ
สำหรับผลกระทบภาคท่องเที่ยวนายชูชาติ อ่อนเจริญ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานระยองยอมรับว่า กรุ๊ปทัวร์ทั้งไทยและยุโรป เริ่มยกเลิกการเดินทางมายังเกาะเสม็ดแล้ว
ทั้งนี้หาก ปตท. ไม่สามารถขจัดคราบน้ำมันให้หมดก่อนสุดสัปดาห์ที่จะถึง การท่องเที่ยวของจังหวัดฯ จะเสียหายเป็นอย่างมาก ซึ่งจากการสอบถามไปผู้ประกอบการการท่องเที่ยวในจังหวัดระยองประเมินความเสียหายไว้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดระยอง กล่าวว่า รายได้จากการท่องเที่ยวจังหวัด มีมูลค่า 16,000 ล้านบาท และมาจากเกาะเสม็ดร้อยละ 40