ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"กรมประมง"ตรวจสารตกค้างสัตว์ทะเล จ.ระยอง คาดรู้ผลใน 7 วัน

สังคม
31 ก.ค. 56
07:30
139
Logo Thai PBS
"กรมประมง"ตรวจสารตกค้างสัตว์ทะเล จ.ระยอง คาดรู้ผลใน 7 วัน

กรมประมง เก็บตัวอย่างสัตว์น้ำในทะเล จังหวัดระยอง เพื่อตรวจหาสารตกค้างในสัตว์น้ำ ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข เตือนให้ประชาชนระวังการสัมผัสคราบน้ำมันและอาหารที่ปนเปื้อน

กรมประมง อ้างว่า ขณะนี้ยังไม่มีความผิดปกติกับสัตว์น้ำบริเวณที่เกิดเหตุน้ำมันรั่ว และไม่พบสัตว์น้ำทะเลตายอย่างผิดปกติ โดยขณะนี้ได้เก็บตัวอย่าง เพื่อส่งตรวจสารตกค้าง คาดจะทราบผล 7 วัน เบื้องต้นแนะนำผู้บริโภคหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารทะเลที่มาจากพื้นที่ดังกล่าว พร้อมกันนี้กรมประมงกำลังพิจารณาเยียวยาผู้ประกอบอาชีพประมงตามความเหมาะสม

ขณะที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่าสิ่งสำคัญกรณีเหตุน้ำมันรั่วในขณะนี้คือการเร่งป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ และมาตรการดูแลผลกระทบ ยืนยันว่าบริษัท ปตท. โกลบอล เคมิคอล ได้ทำประกันภัยมากพอที่จะชดเชยความเสียหาย

ขณะที่การรับบริจาคเส้นผม เพื่อนำไปทำทุ่นดูดซับน้ำมัน นายธรรมธรณ์ จันทร์ประเสริฐ ผู้ประสานรวบรวมและจัดส่งเส้นผม กรุงเทพมหานคร บอกว่าขณะนี้มีประชาชนและร้านเสริมสวย นำเส้นผม มาบริจาคแล้ว จำนวน 3 คน ซึ่งผู้ที่สนใจบริจาค สามารถนำเส้นผมมาให้ได้ทุกรูปแบบ แต่เพื่อความสะดวกและลดขั้นตอน ขอให้บรรจุเส้นผมใส่ลงในถุงน่องที่ซ้อนกันหนา 2 ชั้น เพื่อป้องกันการหลุดล่วงของเส้นผมและง่ายต่อการผูกติดรวมกันเป็นทุ่น

สำหรับวันนี้ (31 ก.ค.) จะเปิดรับบริจาคเส้นผมไปจนถึงเวลา 15.00 น. และจะเปิดรับต่อเนื่องไปจนถึงวันพรุ่งนี้ (1 ส.ค.) ที่สำนักงานไปรษณีย์ลาดพร้าว จากนั้นจะรวบรวมเส้นผมที่ได้ทั้งหมดไปบรรจุผูกติดเป็นทุ่นที่ศูนย์ประสานงานของเครือข่าย ในย่านพระราม 2 ก่อนจะส่งต่อไปยังกลุ่มอาสาคนรักษ์ทะเล จ.ระยอง ขณะนี้ทราบว่าบางส่วนมีการนำทุ่นเส้นผมไปใช้ในการดูดซับน้ำมันแล้ว

ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข เตือนว่า กลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสสัมผัสกับสารปนเปื้อนและส่งผลกระทบต่อสุขภาพ คือ กลุ่มเจ้าหน้าที่ผู้กู้ภัย กู้สถานการณ์ ที่อาจสัมผัสกับสารปนเปื้อนโดยตรงทั้งทางการหายใจ และทางผิวหนัง ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่เกิดการปนเปื้อน และความเสี่ยงในเรื่องของการบริโภคอาหารที่ปนเปื้อน

สำหรับกลุ่มประชาชนที่ต้องระมัดระวังเป็นกรณีพิเศษ มี 4 กลุ่มได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ กลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ได้แก่ โรคหอบหืด โรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง เนื่องจากจะได้รับผลกระทบได้ง่ายและเร็วกว่ากลุ่มอื่น ขอให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณชายหาดที่มีคราบน้ำมันเหล่านี้ ควรอยู่ห่างประมาณ 500 เมตรและอยู่เหนือลม

ผลกระทบของน้ำมันดิบที่รั่วไหล จะมีผลทั้งต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบประสาท ระบบผิวหนัง หากประชาชนมีอาการผิดปกติ ได้แก่ หายใจขัด แน่นหน้าอก หายใจหอบ วิงเวียนศีรษะ ระคายเคืองตา แสบตา คลื่นไส้อาเจียน ขอให้รีบพบแพทย์


ข่าวที่เกี่ยวข้อง