ชาวประมงพื้นบ้าน จ.ระยองเตรียมเรียกค่าเสียหาย เหตุน้ำมันรั่ว
ชาวประมงพื้นบ้าน กว่า 50 คน รวมตัวการพูดคุย เพื่อทำความเข้าใจถึงผลกระทบของภาคการประมง ซึ่งชาวประมงระบุว่า ยังไม่มีหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบดูแลอย่างจริงจัง แต่มีเอกสารคำร้องรับความช่วยเหลือเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากเหตุน้ำมันดิบรั่วไหล จากภาครัฐเรียกให้ชาวประมงพื้นบ้านไปที่เทศบาล ซึ่งเป็นแม้จะมีการเข้ามาดูแล แต่กลุ่มชาวประมงตั้งข้อสังเกตว่า ผลกระทบด้านการประมงไม่สามารถทราบได้ในทันที แต่ต้องรอเวลา 1-2 เดือน ช่วงกระแสลงเปลี่ยน เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง ว่าน้ำมันดิบที่รั่ว จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือระบบนิเวศหรือไหม
ส่วนกรณีที่มีการพบก้อนน้ำมันดิน ตามชายหาด ยังไม่สามารถทราบได้ ต้องรอผลการตรวจสอบจากห้องปฏิบัติการ ว่าจะมีผลกระทบอย่างไร และเป็นโครงสร้างเดียวกับน้ำมันดิบที่รั่วไหลหรือไหม ซึ่งกรีนพีชได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ หลังไทยพีบีเอสรายงานการพบก้อนน้ำมันดินนี้ และสุ่มสัตว์ทะเลไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ โดยจะนำค่าที่ได้มาเปรียบเทียบกับค่าที่ได้ก่อนหน้านี้ ซึ่งจะเปิดเผยหาผลการตรวจสอบออกมา
ส่วนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อกังวลของสัตว์ทะเลในภาคการประมง ไทยพีบีเอสได้ไปสอบถาม ถึงตัวอย่างน้ำจากศูนย์วิจัยและประมง จ.ระยอง ซึ่งได้คำตอบว่า มีการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำและชายฝั่ง ตั้งแต่เกิดเหตุ แต่ไม่ได้เก็บที่อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ผลการตรวจเบื้องต้บพบว่าค่าโลหะหนัก คือสารประกอบในน้ำมัน ไม่เกินค่ามาตรฐาน ส่วนเรื่องสารประกอบไฮโดรคาร์บอน หรือสารก่อมะเร็งยังไม่มีการตรวจสอบ ขณะที่สัตว์ทะเลที่สุ่มตัวยังไม่พบการปนเปื้อน
ส่วนภาคการประมง ล่าสุดผู้ประกอบการพบความผิดปกติ บริเวณที่พักบริเวณชายฝั่ง และมีการติดป้ายเตือนไม่ให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ บริเวณหาดแม่รำพิง