สมช.ส่งหนังสือบีอาร์เอ็น สอบถามเหตุยิงอิหม่ามมัสยิดกลางปัตตานี
หลังมีรายงานว่า นายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น อาจถอนตัวจากการเป็นตัวแทนพูดคุยกับรัฐไทย ซึ่งภายหลังมีข้อมูลว่า รายงานดังกล่าวอาจเป็นเพียงข่าวลือ / ส่วนกรณีการประกบยิงอิหม่ามประจำมัสยิดกลางปัตตานีเสียชีวิต เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ยอมรับว่า ทำหนังสือสอบถามไปยังบีอาร์เอ็นแล้ว โดยข้อมูลยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ขณะที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคง เร่งติดตามผู้ก่อเหตุอย่างเร่งด่วน
หลังเกิดเหตุประกบยิง นายยะโก๊บ หร่ายมณี อิหม่ามประจำมัสยิดกลางประจำ จ.ปัตตานีเสียชีวิต ระหว่างซื้ออาหารในตลาด เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา มีรายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งสามารถบันทึกภาพของคนร้ายสี่คน ที่ใช้รถจักรยานยนต์สองคันเข้ามาจอดหน้าตลาดก่อนจะก่อเหตุอย่างอุกอาจ
จากการตรวจสอบปลอกกระสุนปืนขนาดจุด 38 สองปลอก พบว่า กระสุนปืนหัวทองแดงหุ้มตะกั๋ว ตรงกับคดีความมั่นคง 11 คดี และกระสุนปืนหัวทองแดง ตรงกับคดีความมั่นคง 9 คดี ซึ่งกระสุนดังกล่าว ถูกนำมาใช้ในพื้นที่อำเภอยะหริ่ง และอำเภอเมืองปัตตานี ตั้งแต่ปี 2547 เบื้องต้นตำรวจ คาดว่าจะสามารถออกหมายจับได้ในเร็วๆ นี้
ด้านพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.ระบุว่า ได้มีการส่งคำถามถึงข้อเท็จจริงกลับไปยังขบวนการบีอาร์เอ็นผ่านผู้อำนวยความสะดวกมาเลเซีย โดยจากการสอบถามไปก่อนหน้านี้ ได้รับคำตอบมาระดับหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
สำหรับกรณีของการพูดคุยสันติภาพ เลขาธิการ สมช. ระบุว่า ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าการพูดคุยที่ผ่านมาล้มเหลวหรือไม่ เพราะต้องดูจากข้อเท็จจริง แต่ยอมรับว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ อาจส่งผลทำให้เกิดข้อกังวลในการร่วมกันแก้ปัญหา
ส่วนกรณีรายงานข่าว ที่ระบุว่า นายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำขบวนการบีอาร์เอ็น ในฐานะหัวหน้าทีมเจรจาสันติภาพกับฝ่ายไทย ได้ทำหนังสือถึงตัวแทนฝ่ายมาเลเซีย ในฐานะผู้ประสานงานการเจรจาสันติภาพ ขอยุติบทบาทหัวหน้าทีมเจรจาของบีอาร์เอ็น โดยให้เหตุผลเนื่องจากไม่สามารถทำตามข้อตกลงเรื่องการยุติการก่อเหตุในพื้นที่ชายแดนใต้ของไทยช่วงเดือนรอมฎอน หรือเดือนแห่งการถือศีลอดของพี่น้องมุสลิมได้
กรณีดังกล่าว มีรายงานที่อ้างถึงการให้สัมภาษณ์ของ นายฮัสซัน โดยระบุว่า นายฮัสซัน เปิดเผว่า การปลดตัวเองออกจากการเป็นหัวหน้าคณะพูดคุยสันติภาพ จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อฝ่ายไทยไม่ช่วยให้การพูดคุยสันติภาพสามารถเดินหน้าต่อไปได้ พร้อมกับยืนยันว่า การพูดคุยสันติภาพจะดำเนินต่อไป
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ขณะนี้ มีรายงานว่า หน่วยข่าวความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แจ้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ทุกสังกัด ให้เฝ้าระวังเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงก่อนสิ้นสุดเดือนรอมฎอน
เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุได้นำระเบิดซุกซ่อนในรถจักรยานยนต์ รถยนต์ 3-4 คัน และในกล่องเหล็กเพื่อแฝงตัวนำไปก่อเหตุร้าย มุ่งประสงค์ต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่กองกำลัง ที่ใช้เส้นทางเป็นประจำ และย่านธุรกิจการค้าใจกลางเมือง จ.ปัตตานี จ.ยะลา จ.นราธิวาส และบางพื้นที่ของ จ.สงขลา