วราเทพ ปัด
แม้จะไม่ให้สัมภาษณ์ชี้แจงถึงความคืบหน้าในการเปิดเวทีระดมความเห็นเพื่อสร้างความปรองดองในบ้านเมืองด้วยการปฏิรูปการเมือง และกฎหมายเพิ่มเติม แต่ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมปฏิบัติภารกิจ โดยวันนี้เป็นประธานเปิดงานถึง 2 งานด้วยกัน คือ การเป็นประธานเปิดงานวันครบรอบ 1 ปี กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และการเป็นประธานเปิดงาน "ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกล ด้วยพระบารมี ครั้งที่ 2" ที่เมืองทองธานี
ความคืบหน้าในการเชิญผู้ใหญ่ของบ้านเมืองร่วมเวทีสภาปฏิรูปการเมืองหาทางออกประเทศ ซึ่งเป็นเวทีของรัฐบาล เพื่อคู่ขนานกับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้รับผิดชอบเชิญบุคคลสำคัญ ยังคงยืนยันถึงการเปิดประชุมนัดแรกเพื่อวางกรอบการดำเนินการภายในเดือนสิงหาคมนี้
แต่ล่าสุดนายวราเทพ ปฏิเสธว่าการเชิญนายโทนี่ แบลร์ และนายโคฟี อันนัน มาหารือเรื่องการสร้างความปรองดองในไทยนั้น เป็นคนละส่วนกับเวทีการระดมความเห็นเพื่อสร้างความปรองดอง แต่ยืนยันว่า จนถึงขณะนี้มีบุคคลสำคัญตอบรับแล้วเป็นจำนวนมาก ทั้งที่เดินสายไปเชิญด้วยตัวเอง และผ่านผู้ประสานงาน ซึ่งเมื่อครบจำนวนตามกำหนด คือไม่น้อยกว่า 50 คน และไม่เกิน 100 คนจะแจ้งต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อเปิดหารือนัดแรกทันที
ส่วนการประชุมนัดแรกที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 สิงหาคม ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีกรรมาธิการรวม 35 คน ที่เป็นตัวแทนจากทุกพรรคการเมืองตามสัดส่วนของ ส.ส.ในแต่ละพรรคนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน หรือในฐานะกรรมาธิการแปรญัตติ เปิดเผยว่า ได้เริ่มเขียนคำแปรญัตติแล้ว โดยจะเน้นการจำแนกความผิด และบุคคลที่จะได้รับการนิรโทษกรรมให้ชัดเจน ซึ่งจะสามารถสะท้อนปัญหาความไม่ชอบด้วยกฎหมายให้ชัดเจนขึ้นด้วย
ขณะที่นายแก้วสรร อติโพธิ หนึ่งในกรรมาธิการแปรญัตติร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอชื่อไว้นั้น เปิดเผยว่า ได้เขียนคำแปรญัตติในส่วนที่เกี่ยวข้องกับแกนนำ และการวางเพลิง เพราะไม่ใช่ความผิดทางอาญาเท่านั้น แต่เป็นคดีที่ว่าด้วยอาชญากรรม จึงไม่ควรนิรโทษกรรมทั้งสิ้น แม้จะไม่ให้สัมภาษณ์ชี้แจงถึงความคืบหน้าในการเปิดเวทีระดมความเห็นเพื่อสร้างความปรองดองในบ้านเมืองด้วยการปฏิรูปการเมือง และกฎหมายเพิ่มเติม แต่ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมปฏิบัติภารกิจ โดยวันนี้เป็นประธานเปิดงานถึง 2 งานด้วยกัน คือ การเป็นประธานเปิดงานวันครบรอบ 1 ปี กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และการเป็นประธานเปิดงาน "ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกล ด้วยพระบารมี ครั้งที่ 2" ที่เมืองทองธานี
ความคืบหน้าในการเชิญผู้ใหญ่ของบ้านเมืองร่วมเวทีสภาปฏิรูปการเมืองหาทางออกประเทศ ซึ่งเป็นเวทีของรัฐบาล เพื่อคู่ขนานกับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้รับผิดชอบเชิญบุคคลสำคัญ ยังคงยืนยันถึงการเปิดประชุมนัดแรกเพื่อวางกรอบการดำเนินการภายในเดือนสิงหาคมนี้
แต่ล่าสุดนายวราเทพ ปฏิเสธว่าการเชิญนายโทนี่ แบลร์ และนายโคฟี อันนัน มาหารือเรื่องการสร้างความปรองดองในไทยนั้น เป็นคนละส่วนกับเวทีการระดมความเห็นเพื่อสร้างความปรองดอง แต่ยืนยันว่า จนถึงขณะนี้มีบุคคลสำคัญตอบรับแล้วเป็นจำนวนมาก ทั้งที่เดินสายไปเชิญด้วยตัวเอง และผ่านผู้ประสานงาน ซึ่งเมื่อครบจำนวนตามกำหนด คือไม่น้อยกว่า 50 คน และไม่เกิน 100 คนจะแจ้งต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อเปิดหารือนัดแรกทันที
ส่วนการประชุมนัดแรกที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 สิงหาคม ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีกรรมาธิการรวม 35 คน ที่เป็นตัวแทนจากทุกพรรคการเมืองตามสัดส่วนของ ส.ส.ในแต่ละพรรคนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน หรือในฐานะกรรมาธิการแปรญัตติ เปิดเผยว่า ได้เริ่มเขียนคำแปรญัตติแล้ว โดยจะเน้นการจำแนกความผิด และบุคคลที่จะได้รับการนิรโทษกรรมให้ชัดเจน ซึ่งจะสามารถสะท้อนปัญหาความไม่ชอบด้วยกฎหมายให้ชัดเจนขึ้นด้วย
ขณะที่นายแก้วสรร อติโพธิ หนึ่งในกรรมาธิการแปรญัตติร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอชื่อไว้นั้น เปิดเผยว่า ได้เขียนคำแปรญัตติในส่วนที่เกี่ยวข้องกับแกนนำ และการวางเพลิง เพราะไม่ใช่ความผิดทางอาญาเท่านั้น แต่เป็นคดีที่ว่าด้วยอาชญากรรม จึงไม่ควรนิรโทษกรรมทั้งสิ้น