สมเด็จพระพุฒาจารย์ เกิดเมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2471 ณ บ้านเฉวง ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดภูเขาทอง อ.เกาะสมุย ได้อุปสมบทที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เมื่อปี พ.ศ. 2492 ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะภาค 9 และเป็นเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เมื่อปี พ.ศ. 2508 เมื่อปี พ.ศ. 2516 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานแต่งตั้งเป็นรองสมเด็จพระราชาคณะที่พระพรหมคุณาภรณ์ และเป็นกรรมการมหาเถรสมาคม
เมื่อปี พ.ศ. 2533 ได้เลื่อนเป็น สมเด็จพระราชาคณะที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ ในปี พ.ศ. 2540 ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการฝ่ายเผยแผ่พระพุทธศาสนามหาเถรสมาคม เนื่องจากสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระอาการประชวร และเสด็จเข้าประทับรักษาพระองค์ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ มาตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2545 ทำให้เข้าร่วมงานพระศาสนาไม่สะดวก มหาเถรสมาคม จึงแต่งตั้งให้สมเด็จพระพุฒาจารย์ เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช ในต้นปี พ.ศ. 2547
ต่อมาการแต่งตั้งนั้นได้สิ้นสุดลงเพราะครบระยะเวลาที่กำหนดมหาเถรสมาคมจึงมีมติให้แต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เพื่อบริหารกิจการคณะสงฆ์แทนสมเด็จพระญาณสังวร โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ในฐานะมีอาวุโสสูงสุด โดยสมณศักดิ์ที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ในขณะนั้นทำหน้าที่เป็นประธาน
สมเด็จเกี่ยว มรณภาพ สิริรวมอายุได้ 85 ปี ซึ่งนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติยืนยันข่าวนี้ พร้อมกล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (11 ส.ค.) เวลา 10.00 น. จะได้เคลื่อนศพออกจากโรงพยาบาลสมิติเวช ไปประกอบพิธีทรงน้ำพระราชทานที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เวลา 17.00 น. โดยจะอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ 7 วัน