สร้างพระพุทธรูปปางห้ามญาติบนเขาคูหา ยุติขัดแย้งชุมชน
สภาพเขาคูหา ใน ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เหลือพื้นที่เพียง 3 ใน 4 หลังกระทรวงอุตสาหกรรม อนุญาตให้เอกชนระเบิดหินมาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี จุดที่มีการระเบิดหินอยู่บริเวณรอบ ๆ แท่งหินขนาดใหญ่ มีลักษณะคล้ายหลักหมุดที่ใช้ผูกล่ามวัวควาย ซึ่งชาวบ้านยึดถือต่อกันมาว่ามีดวงวิญญาณของบรรพบุรุษ หรือปู่เจ้าหลักโค สิงสถิตย์อยู่เพื่อคอยปกป้องคุ้มครองชาวบ้านรวมทั้งสัตว์เลี้ยงให้ปลอดภัยจากสัตว์ป่าที่ดุร้าย การระเบิดหินมาเป็นเวลากว่า 10 ปี ทำให้สัญลักษณ์ทางความเชื่อแห่งนี้เกือบจะถูกทำลายลงไปด้วย
นอกจากนี้แรงสั่นสะเทือนจากระเบิดแต่ละครั้งยังทำให้ที่พักอาศัยใกล้โรงโม่หิน ได้รับความเสียหายกว่า 500 หลัง แม้ผู้ประกอบการยินยอมจะชดใช้ค่าเสียหาย แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังไม่อาจยอมรับกับผลกระทบที่เกิดขึ้นนี้ได้
ผลกระทบจากการระเบิดหินเขาคูหาตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี หลังสั้นสุดสัญญาสัมปผทานเมื่อปลายปี 2552 ทำให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนรวมตัวเคลื่อนไหวคัดค้านการต่อสัญญาสัมปทานระเบิดหิน จนเกิดความขัดแย้งกับกลุ่มชาวบ้านที่คัดค้านโรงโม่หินกับชาวบ้านที่เป็นลูกจ้างของโรงโม่หิน
แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ชาวบ้านกลุ่มคัดค้านโรงโม่หินได้นำเสนอแนวคิดเพื่อเป็นทางออกในการลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ด้วยการสร้างพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรหรือปางห้ามญาติประดิษฐานบนเขาคูหา เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ของคนในชุมชน จากนั้นจะประกาศยกเขาคูหาขึ้นเป็นพุทธสถานเพื่อใช้ในการปฏิบัติธรรมและประกอบศาสนกิจของชาวบ้านในอำเภอรัตภูมิและพื้นที่ใกล้เคียง ขณะนี้อยู่ในระหว่างการร่างแผนงานและรายละเอียดของโครงการ
ส่วนความเคลื่อนไหวในบริเวณพื้นที่สัมปทานโรงโม่หินเขาคูหา ผู้สื่อข่าวพบว่า คนงานของบริษัทพีระพล มายนิ่ง จำกัด ได้เข้าเคลื่อนย้ายเครื่องจักรออกจากโรงโม่หิน หลังบริษัทได้รับสัมปทานระเบิดหินในพื้นที่ใหม่ อยู่ใน อ.จะนะ จ.สงขลา ส่วนการระเบิดหินที่เขาคูหาจะมีนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่มาขอเช่าช่วงเพื่อดำเนินการระเบิดหินต่อไป