เปิดปัญหา
การลักลอบนำที่ดินสาธารณะไปออกโฉนด ยังเป็นปัญหาที่พบกันบ่อยในหลายพื้นที่ ล่าสุดชาวบ้านแม่ลัว ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน จ.เชียงราย เรียกร้องให้ตรวจสอบที่ดิน บริเวณรอบหนองน้ำสาธารณะ 2 แห่งของหมู่บ้าน ที่นายทุนนอกพื้นที่ อ้างกรรมสิทธิ์ถือครอง และขับไล่ชาวบ้าน ไม่ให้เข้าไปใช้ประโยชน์
นาข้าวกว่า 100 ไร่ ของชาวบ้านแม่ลัว ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน จ.เชียงราย อาจเป็นการลงทุนที่สูญเปล่า หลังนายทุนจากนอกพื้นที่ อ้างกรรมสิทธิ์ถือครอง ที่ดินที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นที่ดินสาธารณะประโยชน์ บริเวณหนองไค้ไหว และหนองหญ้าสะลาบ จนมีการชุมนุมร้องเรียนต่อนายอำเภอแม่จัน เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา
ชาวบ้านระบุว่า พวกเขาส่วนใหญ่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ แต่ยืนยันว่าเป็นที่ดินมรดกตกทอด ครอบครัวละ 1-2 ไร่ ที่ผ่านมาที่ดินสาธารณะ บริเวณโดยรอบหมู่บ้าน จึงกลายเป็นพื้นที่ ที่ชาวบ้านใช้ในการเลี้ยงสัตว์ และ ทำการประมง กระทั่งในปีที่ผ่านมา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เข้ามาขุดลอกเวียงหนองล่ม ซึ่งเป็นหนองน้ำใหญ่ที่อยู่ใกล้เคียง แล้วนำดินมาถมหนองน้ำสองแห่งให้สูงขึ้น ชาวบ้านจึงเข้าไปทำนา ก่อนจะถูกนายทุนขับไล่
สำนักงานที่ดินจ.เชียงราย สาขาอ.แม่จัน พร้อมด้วย เทศบาลตำบลท่าข้าวเปลือก ซึ่งเข้าตรวจสอบพื้นที่ และรับฟังข้อมูลจากชาวบ้าน ยืนยันว่า จากการตรวจสอบพิกัด พบว่าบริเวณหนองไค้ไหว มีการออกเอกสารสิทธิ์ไปแล้ว 19 แปลง ส่วนบริเวณหนองหญ้าสะลาบยังไม่มีการออกเอกสารสิทธิ์ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไปว่า เป็นการออกเอกสารสิทธิ์ที่ชอบด้วยกฏหมาย หรือ บุกรุกหนองน้ำสาธารณะหรือไม่
ปัญหาที่ดินหนองน้ำสาธารณะในพื้นที่บ้านแม่ลัว ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นแห่งแรก แต่ก่อนหน้านี้ ชาวบ้านต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย ก็เคยออกมาร้องเรียนกรณีนายทุนพยายามเข้ายึดครองหนองน้ำสาธารณะเวียงหนองล่ม และ นำไปเอกสารสิทธิโดยมิชอบ ซึ่ง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ได้ชี้มูลความผิดและสั่งเพิกถอนที่ดิน ไปแล้วกว่า 100 แปลง