รัฐสภาห้าม
ญัตติที่เสนอโดยรัฐบาลพ่ายแพ้ไปอย่างเฉียดฉิวด้วยมติ 285 ต่อ 272 เสียง ต่างกันเพียง 13 เสียง เป็นผลให้อังกฤษจะไม่สามารถเข้าไปเกี่ยวข้องใด ๆ ในการใช้กำลังโจมตีรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซ๊าดของซีเรีย ซึ่งมีแนวโน้มว่าสหรัฐฯจะเป็นผู้นำเปิดฉากเร็ว ๆ นี้
นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน กล่าวต่อรัฐสภา ถือเป็นความชัดเจนว่าประชาชนชาวอังกฤษไม่ต้องการปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งรัฐบาลก็จะปฏิบัติตามนั้น ทั้งนี้นับตั้งแต่เกิดเหตุที่อ้างว่า รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชนชานกรุงดามัสกัส 1,300 คนเมื่อวันที่ 21 ส.ค. รัฐบาลอังกฤษเป็นหนึ่งในมหาอำนาจตะวันตกที่พยายามผลักดันให้เกิดการใช้กำลังเข้าแทรกแซงในสงครามกลางเมือง กว่า 2 ปีในซีเรีย โดยหลังมติรัฐสภาอังกฤษ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯก็ประกาศในทันทีเช่นกันว่า สหรัฐฯอาจต้องโจมตีรัฐบาลซีเรียเพียงลำพัง