ผู้คิดค้นระบบ
ทั้งคิดค้นระบบเสียงที่ลบเสียงรบกวน จนถึงการพัฒนาระบบเสียงเซอร์ราวด์ คือจุดเปลี่ยนของวงการเพลงและภาพยนตร์ที่สร้างสรรค์ โดย เรย์ ดอลบี้ นักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน ซึ่งเสียชีวิตลงเมื่อวานนี้ (13 ก.ย.2556)ในวัย 80 ปี
ฉากเปิดตัวด้วยสงครามอวกาศใน Star Wars ที่เคยตราตรึงผู้ชมในโรงภาพยนตร์ครั้งแรกเมื่อปี 1977 ถือเป็นครั้งแรกๆ ที่แฟนภาพยนตร์ได้มีโอกาสสัมผัสกับระบบเสียงดอลบี้ สตูดิโอ 4 ช่องทาง ที่เพิ่มทิศทางของแหล่งกำเนิดเสียงเพื่อประสบการณ์ในการชมภาพยนตร์ที่สมจริงยิ่งขึ้น เป็นนวัตกรรมที่ช่วยพัฒนาวงการภาพยนตร์ที่สร้างสรรค์โดย เรย์ ดอลบี้ วิศวกรเสียงชาวอเมริกันผู้คิดค้นระบบเสียงดอลบี้ที่นำไปใช้ทั้งในวงการเพลงและภาพยนตร์อย่างแพร่หลาย
คุณูปการของดอลบี้ คือการคิดค้นระบบเสียงที่สามารถตัดเสียงรบกวนโดยไม่ลดคุณภาพของเนื้อเสียงต้นฉบับ โดยเฉพาะในยุคที่มีการผลิตเทปคาสเซ็ท ดอลบี้ ผลิตวงจร DOLBY B TYPE ที่นำไปใช้ลดเสียงรบกวนสำหรับเครื่องเสียงภายในบ้านและแบบพกพา จนเทปคาสเซ็ทกลายเป็นสื่อบันทึกเสียงที่ได้รับความนิยมตั้งแต่ยุค 80 เป็นต้นมา
ต่อมาดอลบี้ได้พัฒนาระบบเสียง Dolby Stereo 2 ช่องทาง จนถึงระบบ Dolby Surround สำหรับใช้ในโรงภาพยนตร์ เพื่อเพิ่มมิติของเสียงระหว่างการรับชมภาพยนตร์เป็นครั้งแรก จนโลโก้ของดอลบี้เป็นเครื่องหมายรับประกันคุณภาพเสียงที่พบตามโรงภาพยนตร์ชั้นนำทั่วไป
ตลอดชีวิตการทำงาน เรย์ ดอลบี้ เป็นเจ้าของสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์กว่า 50 ชิ้น ได้รับเชิดชูจากสถาบันศิลปะ เช่นออสการ์ แกรมมี อวอร์ดส์ และสถาบันทางวิทยาศาสตร์สำหรับผลงานด้านการพัฒนาระบบเสียงที่ใช้ในวงการจนถึงปัจจุบัน โดย เอริค อาดาห์ล นักตัดต่อเสียงภาพยนตร์รางวัลออสการ์ Argo กล่าวว่า ตอนเป็นเด็กเขาชอบอัดเสียงหนังจากม้วนเทปลงคาสเซ็ทเพื่อฟังเสียงในระบบ Dolby B ที่ให้ความคมชัดกว่าเสมอ ส่วน แดน เลเบนทาล นักตัดต่อภาพจาก Iron Man ยอมรับว่าดอลบี้คือสัญลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าเป็นชื่อของคนๆ หนึ่ง
ก่อนหน้าที่ เรย์ ดอลบี้ จะเสียชีวิตจากมะเร็งเม็ดเลือดขาวในวัย 80 ปีเมื่อวันที่ 12 ก.ย.2556 ทางสำนักงาน Dolby Laboratories ได้เซ็นสัญญาตั้งชื่ออาคารที่ใช้แจกรางวัลออสการ์ทุกๆ ปี จาก โกดัก เธียเตอร์ มาเป็น ดอลบี้ เธียเตอร์ ต่อไปอีก 20 ปี ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าแม้วงการภาพยนตร์จะเปลี่ยนจากการใช้ฟิล์มมาเป็นดิจิตอลในวันนี้ แต่ระบบเสียงที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของดอลบี้ จะเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการพัฒนาวงการภาพยนตร์ต่อไป