ตำรวจใช้กำลังเปิดถนนแยกควนหนองหงษ์ จ.นครศรีธรรมราช
สถานการณ์บริเวณสี่แยกควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ค่อนข้างตึงเครียด เนื่องจากหลังจากการสลายการชุมนุมของชาวสวนยางพารา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชน กองบังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส นำกำลังเข้าสลายการชุมนุมตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ ซึ่งเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่ผู้ชุมนุมอยู่บริเวณเวที และสถานที่ที่มีการปิดถนนไม่มากนัก เนื่องจากผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ในช่วงเช้าจะใช้เวลาไปในการกรีดยาง แม้ว่าราคายางจะราคาถูก ผู้ชุมนุมระบุว่าต้องกินต้องใช้ก็ยังมีการไปกรีดยาง
สำหรับการสลายการชุมนุมนั้นใช้เวลาไม่นานนัก และเปิดการจราจรให้รถสามารถสัญจรผ่านไปได้ทั้งขาขึ้นและขาล่อง ส่วนสถานการณ์ในปัจจุบันค่อนข้างตึงเครียด เนื่องจากการสลายการชุมนุมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาสร้างความคับแค้นใจให้กับชาวบ้านในบริเวณสี่แยกควนหนองหงษ์ เพราะว่ามีความรู้สึกว่าตัวเองกำลังไปกรีดยาง และให้ผู้ชุมนุมไม่มากนักเฝ้าพื้นที่ปิดถนนไว้
จนถึงขณะนี้ บริเวณโดยรอบสี่แยกควนหนองหงษ์ ชาวบ้านในพื้นที่จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ และจะมีการรวมตัวของชาวบ้าน รวมถึงคนที่กลับจากการกรีดยางแล้วเป็นจุดๆ และมีความตึงเครียดในลักษณะที่จะมีการรวมตัวมาปะทะกับเจ้าหน้าที่อีก ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับผู้บังคับบัญชาได้ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ได้พักผ่อน และได้มีการเรียกกำลังให้มาตรึงกำลังบริเวณแยกควนหนองหงษ์อีกครั้ง
ทั้งนี้ การสลายการชุมนุมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาไม่ได้มีการปะทะแต่อย่างใด เนื่องจากผู้ชุมนุมมีไม่มากนัก เมื่อเห็นกำลังเจ้าหน้าที่มาจึงได้หลบหนีออกไปก่อน ขณะที่ชาวบ้านระบุว่าในช่วงเช้าคงไม่พร้อมที่จะปะทะกับเจ้าหน้าที่ โดยในส่วนของผู้ชุมนุมไม่ได้มีการประกาศเตือนก่อนสลายการชุมนุม เพราะว่ามีเวลาตั้งตัวกันค่อนข้างน้อย เนื่องจากก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ระบุว่าจะไม่มีการใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมตามที่มีการออกข่าวมาก่อนหน้านี้ ทำให้ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งชะล่าใจ
ส่วนบริเวณโดยรอบของสถานที่ชุมนุมไม่มีการทำลายข้าวของ เพราะว่าไม่มีการปะทะกัน มีเพียงสถานีตำรวจเป็นจุดส่วนย่อยเล็กน้อยที่เป็นการทำลายกระจกตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งไม่ใช่ช่วงเวลาที่มีการสลายการชุมนุมแต่อย่างใด สำหรับการสลายการชุมนุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำรถกระจายเสียงมาชี้แจงเหตุผลเพียงสั้นๆ และเข้าสลายการชุมนุมเลย เพราะผู้ชุมนุมมีไม่มากนัก และเจ้าหน้าที่ต้องการเน้นปฏิบัติการให้ได้ผลสำเร็จมากกว่าคือการเปิดการจราจรก่อน
อย่างไรก็ตาม ลักษณะความตึงเครียดที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากการเผชิญหน้าแบบกำลัง 2 ฝ่าย โดยชาวบ้านใช้การรวมตัวพูดคุย ซึ่งแสดงถึงความคับข้องใจ เนื่องจากการเจรจาที่ผ่านมา ชาวบ้านพูดเรื่องราคา ต้องการเรียกร้องให้แก้ปัญหาราคายางพารา แต่ว่ารัฐบาลไม่มีความจริงใจในการแก้ปัญหา กลับไปให้การดูแลเรื่องปัจจัยการผลิต 2,500 บาท ซึ่งชาวบ้านระบุว่าไม่ตอบโจทย์เรื่องราคา เมื่อเฉลี่ยออกมาเป็นต่อเดือนแล้ว จะได้แค่เดือนละ 360 บาทเท่านั้น โดยชาวบ้านในพื้นที่หลายคนได้เดินออกมาอยู่บนถนนบางส่วน แต่ไม่ได้เป็นการปิดการจราจร ซึ่งเป็นเพียงการสังเกตการณ์