“ยูเอ็น” แถลงมีการใช้อาวุธเคมีในซีเรียจริง

ยูเอ็นแถลงผลตรวจสอบเกี่ยวกับข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีโจมตีประชาชนเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผลปรากฏว่ามีการใช้อาวุธเคมีจริง แต่ไม่ได้ระบุว่าใครเป็นผู้ลงมือ

นายบัน คี มุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่ารายงานของทีมสอบสวนข้อกล่าวหาเรื่องการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย ระบุว่ามีการใช้แก๊สซารินในกรุงดามัสกัสจริง เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา การตรวจสอบตัวอย่างเลือดของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ พบว่าร้อยละ 85 มีแก๊สซาริน

นอกจากนี้ชิ้นส่วนของจรวด และระเบิดในที่เกิดเหตุ ก็ยังพบแก๊สซารินเช่นกัน นายบันเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็นแสดงความเป็นผู้นำ ด้วยการออกมาตรการแก้ไขปัญหานี้ เพราะการใช้อาวุธเคมี ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดหรือเกิดขึ้นที่ไหนก็ตาม ถือเป็นอาชญากรรม ทั้งนี้รายงานดังกล่าวไม่มีการระบุว่าฝ่ายใดเป็นผู้ใช้แก๊สซาริน

เอกอัครราชทูตของสหรัฐฯ, อังกฤษ และฝรั่งเศส ประจำยูเอ็น ออกมาแถลงเพิ่มเติมว่าจากการตรวจสอบหลักฐานโดยละเอียดไม่ว่าจะเป็นอาวุธ, วิถีจรวดที่ยิงใส่ชุมชน ข้อมูลทุกอย่างระบุชัดเจนว่ารัฐบาลซีเรียเป็นฝ่ายที่ใช้อาวุธเคมีโจมตีประชาชน ขัดแย้งกับความเห็นของเอกอัครราชทูตรัสเซียที่ระบุว่าไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ว่ารัฐบาลซีเรียใช้แก๊สซาริน

ขณะที่ เมื่อวันที่ 16 กันยายน มีรายงานว่าเครื่องบินรบของตุรกีได้ยิงเฮลิคอปเตอร์ของซีเรีย เนื่องจากบินรุกล้ำเข้ามาในน่านฟ้าของซีเรีย ซึ่งก่อนที่จะยิง ทางฝั่งตุรกีได้แจ้งเตือนเฮลิคอปเตอร์ของซีเรียล่วงหน้าแล้ว แถลงการณ์ของกองทัพตุรกีระบุว่าเฮลิคอปเตอร์ "เอ็มไอ 17" ของซีเรียอยู่ห่างจากชายแดนประมาณ 41 กิโลเมตร ทางตุรกีได้แจ้งเตือนให้ถอยกลับไป แต่เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวยังคงมุ่งหน้ามาทางตุรกี กองทัพจึงตัดสินใจใช้เครื่องบินเอฟ 16 ยิงเฮลิคอปเตอร์ของซีเรีย ตกในฝั่งซีเรียห่างจากชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร