พรรคการเมืองยังไม่ตอบรับ ก้าวข้ามความรุนแรงสู่สังคมปรองดอง 
น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมด้วยบุตรทั้ง 3 คน ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ช่วยผู้สมัครหาเสียงย่านมีนบุรี และ ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวที่นายวัฒนา เมืองสุข ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคพา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเข้าพบ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเชื่อว่า เป็นเพียงกระแสข่าวปล่อย โดยยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองภายในพรรค ซึ่งก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร ได้ปฏิเสธข่าวการทาบทามเป็นรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยมาแล้ว
ส่วนนายอภิสิทธิ์ลงพื้นที่บริเวณสถานีรถไฟบางซื่อก่อนที่จะนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปหาเสียงต่อในย่านอโศก พร้อมกล่าวถึงกระแสข่าวมีผู้ต้องการให้ล้มการการเลือกตั้งว่า ไม่เป็นความจริงขณะนี้ไม่เงื่อนไขใดที่จะนำไปสู่การปฏิวัตรัฐประหาร และ พรรคประชาธิปัตย์ได้คะแนนเสียงตอบรับเป็นอย่างดีหลังการปราศรัยที่แยกราชประสงค์ สำหรับประเด็นที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า ต้องการเปลี่ยนชายแดนไทย-กัมพูชา จากสนามรบให้เป็นสนามการค้านั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจเลือกระหว่างการมีมิตรสัมพันธ์ที่ดี หรือ การสูญเสียอธิปไตย
ส่วนแนวทางการตั้งรัฐบาลแห่งความปรองดองตามข้อเสนอ นพ.ประเวศ วะสี นักวิชาการอิสระนั้น นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กล่าวว่า ยังไม่มีสถานการณ์ถึงขั้นที่จะมีการตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรคฝ่ายค้าน และ พรรคประชาธิปัตย์ กับ พรรคเพื่อไทย มีแนวทางที่แตกต่างกันมากจนไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ แต่เป็นแนวคิดที่ดีในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และ สามารถนำมาปรับต่อการยอมรับให้การเมืองอยู่ในระบบรัฐสภาได้
นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผย "มติชนออนไลน์" จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ปฏิเสธข่าวการรับเป็นประธานคณะกรรมการปรองดอง และ ไม่เคยไปพบกับบุคคลใด ๆ เพื่อเป็นคนกลางในการปรองดอง ทั้งนี้เห็นรัฐบาลใหม่น่าจะมอบหมายให้คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป. ที่มีนายคณิต ณ นคร เป็นประธาน ได้ทำหน้าที่ต่อไป และมองว่า ไม่มีความจำเป็นจะต้องตั้งกรรมการชุดใหม่ให้เสียเวลาเพื่อที่งานปรองดองจะได้ดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง
ในวันนี้ภาคธรกิจ 5 องค์กร และ 2 องค์กรวิชาชีพสื่อจะมีการแถลงย้ำในข้อเรียกร้องให้ฝ่ายการมืองก้าวข้ามความรุนแรงสู่สังคมปรองดอง หลังเคยแถลงไปแล้วเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผานมา แต่ยังไม่มีความชัดเจนการตอบรับข้อเรียกร้องนี้จากพรรคการเมือง และ กลุ่มการเมืองต่าง ๆ และยังมีแนวโน้มความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งรุนแรงมากขึ้นอีกหลังการเลือกตั้ง