แหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อให้ข้อมูลกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า มีรายงานจากหน่วยข่าวกรองแจ้งเตือนก่อการร้ายตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยข้อมูลดั้งกล่าวถูกส่งให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงกลาโหม, กระทรวงการคลัง และกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงผู้บัญชาการกองทัพด้วย โดยระบุว่า มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดเหตุก่อการร้าย และอาจจะมีการโจมตีเกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน ในกรุงไนโรบี และเมืองมอมบาซ่า ระหว่างวันที่ 13-20 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับไม่ให้ความสำคัญกับคำเตือนนี้
ขณะเดียวกันทางการอิสราเอลยังเตือนว่า อาจจะมีการโจมตีอสังหาริมทรัพย์ที่ชาวอิสราเอลเป็นเจ้าของ ซึ่งห้างสรรพสินค้า "เวสต์เกท" ที่ถูกกลุ่มติดอาวุธบุกยึดเป็น 1 ในเป้าหมายที่เข้าข่าย เพราะมีชาวอิสราเอลร่วมเป็นเจ้าของด้วย นอกจากนี้ห้างแห่งนี้ยังเป็นที่นิยมของชาวเคนย่าที่มีฐานะ รวมถึงชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเคนย่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ประกาศเตือนพลเมืองของตัวเองว่า มีความเสี่ยงสูงหากจะเดินทางไปที่เคนย่า คำเตือนของรัฐบาลสหรัฐฯ สร้างความไม่พอใจให้รัฐบาลเคนย่า และขอให้ถอนคำเตือนครั้งนี้ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุกลุ่มติดอาวุธบุกยึดห้างสรรพสินค้านานถึง 4 วัน ตัวเลขอย่างเป็นทางการล่าสุดอยู่ที่ 67 คน สูญหาย 61 คน ซึ่งคาดว่า เสียชีวิตแล้ว และศพอาจจะอยู่ใต้ซากอาคาร ที่ชั้น 3 พังถล่มลงมา