พล.ต.ปราการ ชลยุทธ รองแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงการก่อเหตุร้ายด้วยการวางระเบิดของบีอาร์เอน เมื่อเช้านี้ ที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา ส่งผลให้ทหารเสียชีวิต 4 นาย ว่าเป็นการปรับเปลี่ยนการก่อเหตุร้ายหันมาใช้ระเบิดในการสร้างสถานการณ์มากขึ้น ซึ่งต้องปรับแผนการตรวจสอบเส้นทางให้เข้มข้นขึ้น พร้อมระบุว่า ก่อนเหตุระเบิดมีการลาดตระเวนเส้นทางของหน่วยแต่ตรวจสอบไม่พบ ต้องมีการสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนการทำงานของหน่วย
ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้สรุปสถานการณ์การก่อเหตุร้ายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของปีงบประมาณ 2556 เทียบกับปี 2555 พบว่ามีการก่อเหตุร้ายลดลงกว่า 500 เหตุการณ์
โดยในปี 2556 เกิดเหตุร้าย 434 เหตุการณ์ และในปี 2555 มีเหตุร้าย 963 เหตุการณ์ ซึ่งสถานการณ์การก่อเหตุร้ายลดลงมาตลอดนับจากปี 2550 ซึ่งมีสถานการณ์รุนแรงที่สุดด้วยจำนวนเหตุความไม่สงบกว่า 1,600 ครั้ง
ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตปี 2556 มี 644 คนเทียบกับปี 2555 มีผู้เสียชีวิต 901 คน และในปี 2555 มีผุ้เสียชีวิตมากที่สุดถึง 2,454 คน นอกจากนี้มีสถานการณ์เหตุร้ายจากการยิงลดลงกว่า 4 เท่า โดยในปี 2556 มีเหตุลอบยิง 148 เหตุการณ์เทียบกับปี 2555 มีเหตุการณ์ลอบยิง 565 เหตุการณ์ หรือลดลง 4 เท่า ขณะที่การก่อเหตุร้ายด้วยระเบิดเพิ่มขึ้นจาก 174 ครั้งในปี 2555 เพิ่มเป็น 205 ครั้งในปีนี้ (56)
พล.ต.ปราการ กล่าวถึงสถิติการก่อเหตุร้ายที่ลดน้อยลงรวมถึงเหตุลอบยิงว่าน่าเป็นผลจากการดำเนินนโยบายพาคนกลับบ้าน และงานมวลชนของกองทัพภาคที่ 4
ในช่วงปีงบประมาณที่ผ่านมา (55) มีอดีตผู้ปฏิบัติงานบีอาร์เอ็นเข้าร่วมในโครงการพาคนกลับบ้านของกองทัพภาคที่ 4 จำนวน 983 ราย ซึ่งกว่าครึ่งได้รับการยกเลิกหมายจับตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปแล้ว พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย เพื่อแลกเปลี่ยนกับการยุติการต่อสู้ด้วยอาวุธ ซึ่งมีส่วนทำให้สถานการณ์เหตุร้ายเริ่มคลี่คลาย และทาง ฉก.ยะลา ได้ปรับลดกำลังทหารหลักออก 1 กองพันจากทั้งหมดที่ทำงานในพื้นที่ 5 กองพันเมื่อปีที่แล้ว (55)