น้ำป่าปางสีดาไหลเข้าท่วมบ้านเรือนอย่างรวดเร็วกลางดึก
เมื่อเวลาประมาณ 3.00 น. วันที่ 4 ตุลาคม ชาวบ้าน ต.ช่องกุ่ม อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ต้องช่วยกันขนย้ายทรัพย์สินไปไว้บนที่สูง หลังน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติปางสีดาไหลเข้าท่วมบ้านเรือนอย่างรวดเร็ว และระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่วนพื้นที่อื่นๆ ใน จ.สระแก้ว คาดว่าน่าาจะได้รับผลกระทบต่อไปในช่วงสายๆ ของวันที่ 4 ตุลาคม
ส่วนการระบายน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จำนวน 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประกอบกับฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ ทำให้แม่น้ำป่าสัก ขณะนี้ล้นตลิ่งกว่า 2 เมตร และไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนใน 4 ตำบล ของ จ.ลพบุรี ได้รับผลกระทบแล้วอย่างน้อย 500 หลังคาเรือน และคาดว่าระดับน้ำจะสูงขึ้นอีก เนื่องจากน้ำจาก จ.เพชรบูรณ์กำลังไหลมาสมทบ ประกอบกับยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง
สำหรับจังหวัดต่อเนื่องที่อาจได้รับผลกระทบจากมวลน้ำต่อไป คือ อ.แก่งคอย, อ.เมืองสระบุรี, อ.เสาไห้, อ.บ้านหมอ และ อ.ดอนพุด จ.สระบุรี ซึ่งเป็นเส้นทางไหลผ่านของน้ำท้ายเขื่อน แต่นายวีระชัย จิตรบรรเทา ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ระบุว่า ยังไม่มีรายงานผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่งในบริเวณดังกล่าว
แต่หากเขื่อนต้องรับน้ำที่ไหลลงมาเติม อาจจะมีการระบายน้ำเกิน 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเป็นไปได้ว่า บ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำป่าสักบริเวณท้ายเขื่อน อาจได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำล้นตลิ่งได้
ส่วนสถานการณ์ใน จ.ปราจีนบุรี สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ปราจีนบุรี แจ้งว่า พื้นที่น้ำท่วม อ.นาดี กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนที่ อ.กบินทร์บุรี, อ.ประจันตคาม, อ.ศรีมหาโพธิ, อ.ศรีมโหสถ ระดับน้ำลดลง ส่วนใน อ.เมืองระดับน้ำทรงตัว เหลือเพียงพื้นที่ปลายน้ำที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือที่ อ.บ้านสร้าง
ขณะที่มวลน้ำที่เร่งระบายจาก จ.ปราจีนบุรี ผ่านมาทางแม่น้ำบางปะกง เริ่มส่งผลกระทบต่อ จ.ฉะเชิงเทราแล้ว โดยทางจังหวัดประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมเป็น 5 อำเภอ โดยเฉพาะพื้นที่ ต.ดงน้อย อ.ราชสาส์น ซึ่งต้องรับน้ำที่ระบายจาก จ.ปราจีนบุรี ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตรแล้ว พื้นที่การเกษตร บ่อเลี้ยงกุ้ง และ บ่อเลี้ยงปลา ถูกน้ำท่วมเสียหายเป็นบริเวณกว้าง
ส่วนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะนี้ยังมีสถานการณ์ในหลายจังหวัด เช่น ที่ จ.ยโสธร และ จ.บุรีรัมย์ ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูง เนื่องจากยังมีปริมาณน้ำเหนือไหลเข้ามาในพื้นที่ต่อเนื่อง ชาวบ้านต้องขนย้ายทรัพย์สิน และสัตว์เลี้ยงไปไว้ในที่สูงเป็นการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์น้ำจะเป็นปกติ
ส่วนในพื้นที่ภาคเหนือ หลายจังหวัดระดับน้ำเริ่มทรงตัว เช่นที่ จ.พะเยา น้ำท่วมในเขตอำเภอเมือง 50 เซนติเมตร ส่วนที่ จ.พิจิตร และ จ.พิษณุโลก ชาวนาต้องเร่งเก็บเกี่ยวข้าวที่ถูกน้ำท่วมอย่างเร่งด่วน และพบว่ามีพื้นที่ทางเการเกษตรได้รับความเสียหายแล้วจำนวนมาก