เปิดสถิติ
ปีนี้สายการบินนกแอร์ เกิดอุบัติเหตุทางภาคพื้นดินแล้วสามครั้ง ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ครั้งที่สองต้นเดือนสิงหาคม และครั้งล่าสุด คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ (6ต.ค.) ที่สนามบินอุดรธานี ซึ่งทั้งสามเหตุการณ์ สาเหตุส่วนใหญ่มาจากระบบล้อของเครื่องบินขัดข้อง จึงทำให้เครื่องไถลออกนอกรันเวย์และแท็กซี่เวย์ ล่าสุดสนามบินอุดรธานี ยังคงเปิดการบินตามปกติ เนื่องจากบริเวณที่เกิดเหตุเป็นแท็กซี่เวย์ ไม่ใช้รันเวย์หลักที่เครื่องบินใช้ขึ้นลง
เหตุการณ์เครื่องบินของสายการบินนกแอร์ รุ่น saab-340 แบบ 2 ใบพัด 34 ที่นั่ง หรือ นกมินิ เที่ยวบินที่ DD 8610 ที่เดินทางจากจ.เชียงใหม่ ไปยังสนามบินอุดรธานี เกิดอุบัติเหตุไถลออกนอกแท็กซี่เวย์ ที่สนามบินอุดรราชธานี เกิดขึ้นหลังนักบินนำเครื่องลงเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. โดยตัวเครื่องไถลลงไปอยู่ข้างพุ่มไม้และพงหญ้า ซึ่งลูกเรือและผู้โดยสาร 26 คน ปลอดภัย
นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนกแอร์ ระบุว่า หลังนักบินนำเครื่องลงรันเวย์ ขณะกำลังจะเลี้ยวเข้าแท็กซี่เวย์เพื่อนำเครื่องไปจอดที่อาคารผู้โดยสาร พบว่า ระบบเกียร์บังคับล้อมีปัญหา จึงตัดสินบังคับเครื่องลงข้างแท็กซี่เวย์ซึ่งป็นพุ่มไม้เพื่อลดความเสียหาย
ทั้งนี้ ในปีนี้สายการบินนกแอร์ เกิดอุบัติเหตุทางภาคพื้นดินแล้วสามครั้ง โดยครั้งแรก เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2556 เครื่องบินรุ่นโบอิ้ง 737 เที่ยวบิน DD 8715 เส้นทางดอนเมือง-เชียงราย เพลาล้อหน้าหัก 1 ข้าง ขณะที่นักบินนำเครื่องเข้าหลุมจอด หลังจากลงจอดที่สนามบินแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
ครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2556 เครื่องบินรุ่นโบอิ้ง 737-800 เที่ยวบิน DD 7411 เส้นทางตรัง-ดอนเมือง ลื่นไถลออกนอกรันเวย์ที่สนามบินตรัง ขณะเตรียมนำเครื่องขึ้นทำให้ล้อติดอยู่ในตม สนามบินต้องประกาศปิดเส้นทางบิน 2 วัน เพื่อกู้เครื่องบิน
ล่าสุด ก็เกิดขึ้นกับเที่ยวบิน DD 8610 เครื่องบินแบบใบพัด หรือ นกมินิ เส้นทางเชียงใหม่-อุดรธานี ไถลออกนอกแท็กซี่เวย์ ที่สนามบินอุดรธานีหลังลงจอด เมื่อเช้านี้ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานสาเหตุเบื้องต้นว่า อาจมาจากระบบเกียร์ และล้อมีปัญหา