นักวิชาการแนะ ตรวจสอบอาคารสูง ป้องกันความเสี่ยงเหตุแผ่นดินไหวในภาคเหนือ
ชาวต.ทุ่งหลวง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ สำรวจโครงสร้างอาคาร บริเวณวัดทุ่งหลวง หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว แม็คนิจูด 4.1 ตามมาตราวัดริกเตอร์ เมื่อเวลา 1.19 น.คืนที่ผ่านมา จุดศูนย์กลางอยู่ในพื้นที่ต.ทุ่งหลวง ลึกลงไปใต้ดิน 3 กิโลเมตร วัดทุ่งหลวงเคยได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ ในประเทศพม่า เมื่อปี 2554 แต่แผ่นดินไหวเมื่อคืนที่ผ่านมา ไม่พบความเสียหาย
นายสุรชัย มณีปกรณ์ นายอำเภอพร้าว เปิดเผยว่า ยังไม่มีรายงานความเสียหายจากแผ่นดินไหว เนื่องจากอ.พร้าวไม่มีตึกสูง ไม่มีโบราณสถานสำคัญ ซึ่งปีที่ผ่านมา ก็เคยเกิดแผ่นดินไหว ศูนย์กลางที่ต.สันทราย อ.พร้าว แม็คนิจูด 2.1 ตามมาตราวัดริกเตอร์ ไม่มีความเสียหายเช่นกัน
รองศาสตราจารย์สัมพันธ์ สิงหราชวราพันธ์ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ และผู้อำนวยการสถาบันพิบัติภัยแผ่นดินไหว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดจากลอยเลื่อนแม่ทา ที่พาดผ่านอ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ซึ่งเป็นเพียงการขยับตัวของเปลือกโลกตามปกติ และขนาดความรุนแรงไม่มากนัก แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ การเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ตามแนวรอยเลื่อนแม่จัน ที่อาจสร้างความสูญเสียครั้งใหญ่ โดยเฉพาะชุมชนและอาคารที่มีคนอยู่มาก ในพื้นที่จ.เชียงรายจึงควรตรวจสอบอาคาร ให้มีความแข็งแรง พอที่จะรับแรงสั่นสะเทือนแม็คนิจูด 6.5 ตามมาตราวัดริกเตอร์ได้ เพื่อลดความสูญเสีย