ร.ร.บ้านขอนหาด เบื้องหลังความสำเร็จ 2 นักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย
บรรยากาศการต้อนรับน้องแป้น ปิยะนุช แป้นน้อย และน้องเพียว อัจฉราพร คงยศ 2 นักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยชุดแชมป์เอเชีย ที่เดินทางกลับถึงบ้านเกิด จ.นครศรีธรรมราช ถือเป็นภาพอันน่าประทับใจ เมื่อมีชาวนครศรีธรรมราช มารอให้การต้อนรับอย่างเนืองแน่นตลอด 2 ข้างทางที่ขบวนแล่นผ่าน แต่สถานที่สำคัญที่ทั้ง 2 คนไม่ลืมเลือน และกลับมายังสถานที่แห่งนี้ทุกครั้งที่เดินทางกลับบ้านเกิดคือ โรงเรียนบ้านขอนหาด ซึ่งเป็นโรงเรียนที่บ่มเพาะทั้ง 2 คนจนก้าวขึ้นมาประสบความสำเร็จในปัจจุบัน ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้ ทั้ง 2 คนยังคงได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวบ้านตำบลชะอวด ที่เข้ามารุมล้อมขอลายเซ็น และขอถ่ายภาพ รวมทั้งยังมีการจัดงานเลี้ยงฉลองให้กับทั้ง 2 คนอีกด้วย
น้องแป้น ปิยะนุช ซึ่งบ้านอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนบ้านขอนหาดเล่าให้ฟังว่า สมัยเด็ก ๆ ได้ติดตามพี่ชายที่เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลของโรงเรียนมาวิ่งเล่นที่โรงเรียน จนอาจารย์สมยศ พงศาปาน จับให้มาเล่นวอลเลย์บอล ซึ่งสมัยนั้นต้องเล่น และฝึกซ้อมบนพื้นสนามปูน ซึ่งทำให้มีแผลติดตัวทุกวัน แต่แม้จะเจ็บก็ยังคงเล่นต่อไป เพราะรู้สึกหลงรักในกีฬาชนิดนี้
ขณะที่น้องเพียว มีชีวิตที่ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากต้องห่างจากพ่อแม่ ด้วยการย้ายจาก อ.สิชล มาเรียนที่โรงเรียนบ้านขอนหาด และกินนอนที่บ้านของอาจารย์สมยศ ซึ่งเห็นแววของน้องเพียวที่น่าจะประสบความสำเร็จในการเล่นวอลเลย์บอลได้ โดยทั้งน้องแป้น และน้องเพียว เผยว่า โรงเรียนบ้านขอนหาด รวมไปถึงอาจารย์สมยศ และอาจารย์ท่านอื่น ๆ ในโรงเรียน ถือเป็นผู้มีพระคุณต่อทั้ง 2 คนที่ช่วยอบรม สั่งสอน จนทำให้พวกเธอประสบความสำเร็จเกินกว่าที่ได้คาดหวังไว้
ขณะที่ อาจารย์สมยศ ซึ่งเป็นผู้ปลุกปั้นทั้ง 2 คน รวมทั้งผลักดันให้ทั้ง 2 งได้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนบดินทรเดชา ซึ่งถือเป็นโรงเรียนที่ให้การสนับสนุนกีฬาวอลเลย์บอลเป็นอย่างมาก จนทำให้ทั้ง 2 คนก้าวขึ้นมาติดทีมชาติในที่สุดบอกว่า ทั้ง 2 คนถือเป็นต้นแบบของนักกีฬาเยาวชนที่สามารถก้าวขึ้นมาประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย โดยเฉพาะน้องเพียว ที่ยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แต่ก็สามารถคว้าแชมป์วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชียมาครองได้
อาจารย์สมยศ ยังเผยอีกว่า แม้ทั้งน้องแป้น และน้องเพียว จะประสบความสำเร็จในการเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอล แต่ในฐานะอาจารย์ก็ยังรู้สึกเป็นห่วงลูกศิษย์ทั้ง 2 คน และหวังว่า หลังจากนี้ทั้ง 2 คนจะไม่หลงระเริงไปกับความสำเร็จ และเงินทองที่หลั่งไหลเข้ามา และอยากจะให้ลูกศิษย์ทั้ง 2 คนมุ่งมั่น ทุ่มเทกับการเล่นวอลเลย์บอลต่อไป เพราะเชื่อว่าในอนาคตทั้ง 2 คนจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ทดแทนรุ่นพี่ที่อายุเริ่มมากขึ้น