รองผวจ.อุบลฯชี้กระแสน้ำโขงแรง-ขุ่น อุปสรรคกู้ซากเครื่องบินตก

ตลอดทั้งวันเมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ของไทยจากหลายภาคส่วนที่ได้ส่งเข้าไปช่วยเหลือตามคำร้องขอของทางการลาว ก็ได้ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ในการค้นหาและเก็บกู้ซากเครื่องบิน ตลอดจนค้นหาผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินลาวตกกลางลำน้ำโขง แต่ก็ทำให้ได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะยังมีอุปสรรคในเรื่องกระแสน้ำโขงที่ขุ่นและเชี่ยวกราก

นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวกับไทยพีบีเอสว่า อุปสรรคในการกู้ซากเครื่องบิน และค้นหาร่างผู้เสียชีวิต จากอุบัติเหตุเครื่องบินสายการบินลาวตกกลางแม่น้ำโขง คือ จุดที่เครื่องบินตกมีบริเวณกว้าง และกระแสน้ำขุ่นและไหลแรง

ส่วนปัญหาการกู้ซากเครื่องบินที่ยังไม่ทราบว่าตกลงที่จุดใดนั้น วันนี้ (18 ต.ค.) จะใช้วิธีการค้นหาทางเทคนิค โดยการคำนวณว่าเครื่องบินตกที่จุดใด โดยการประสานความร่วมมือระหว่างทางการลาว กองทัพอากาศไทย และหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบตามลำแม่น้ำโขง หรือ นรข. ขณะเดียวกัน ทางการลาวได้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคจากต่างประเทศ ในการค้นหาจุดตกของเครื่องบินด้วย

นอกจากนี้ ทางการลาวได้ร้องขอให้ทางการไทย ช่วยเหลือในส่วนของโรงเย็นเก็บศพ เนื่องจากขณะนี้ศพที่เก็บกู้ขึ้นมาได้ ยังถูกห่อไว้ด้วยพลาสติก โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีได้ประสานกับนายแพทย์สาธารณสุข จ.อุบลราชธานี เพื่อดำเนินการแล้ว

ขณะที่ การพิสูจน์เอกลักษณ์บุุคล ผู้เสียชีวิตทั้ง 14 ศพ ที่ค้นหาได้เมื่อวานนี้ ทางการลาวยังไม่ได้ประสานขอความช่วยเหลือมา แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมให้การสนับสนุนหากทางการลาวร้องขอ