ประชาชนเริ่มทยอยมาเฝ้ากราบพระศพพระสังฆราชฯ
พระสงฆ์และเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังจัดเตรียมสถานที่ รวมถึงเครื่องประกอบพระยศ พระโกศ ภายในตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร สำหรับสรงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระโกศ ซึ่งเป็นพระโกศกุดั่นใหญ่ ประจำพระอิสริยยศของพระองค์ท่าน ภายใต้เศวตฉัตร 3 ชั้น
พระโสภณคณาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ให้ข้อมูลกับทีมข่าวไทยพีบีเอสว่า สถานที่นี้จะเป็นสถานที่ถวายน้ำสรงจากพระเถระชั้นผู้ใหญ่ รวมถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ส่วนประชาชนทั่วไปที่จะเดินทางมาที่นี่ ทางวัดได้จัดเตรียมสถานที่บริเวณอาคารมนุษยนาควิทยาคาร ในวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นสถานที่ถวายความอาลัยและกราบพระศพ
หลังจากทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (24 ต.ค.) ประชาชนจำนวนหนึ่งได้มารอถวายความอาลัย และกราบพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก หลายคนมารอกราบพระศพพระองค์ท่าน ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดบวรนิเวศวิหาร ตั้งแต่ปี 2476 สมัยที่ทรงเป็นสามเณร และทรงอุปสมบทที่วัดแห่งนี้ จำพรรษาที่นี่กว่า 80 พรรษา เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงผนวช และประทับที่วัดบวรนิเวศวิหาร สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกทรงเป็นพระอภิบาลโดยตลอด ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์มาโดยลำดับ เมื่อพระชนมายุ 34 พรรษา เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ จากนั้นเป็นพระราชาคณะชั้นราช ชั้นเทพ ชั้นธรรม เป็นพระราชาคณะชั้นเจ้าคณะรอง และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสถาปนา เป็นสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เมื่อปี 2532 ตลอดเวลาที่ทรงตำแหน่งนี้ พระองค์ทรงมีคุณูปการอันทรงคุณประโยชน์ต่อพุทธศาสนา และประเทศชาติอย่างอเนกอนันต์ ในฐานะประมุขสูงสุด
ในช่วงเวลา 12.00 น. พระสงฆ์รวมถึงสามเณรของวัดบวรนิเวศวิหาร จะร่วมกันตั้งแถวรอ ที่บริเวณพระตำหนักเพ็ชร เพื่อรอรับพระศพของพระองค์ท่าน