กรีฑาไทยมั่นใจครองจ้าวเหรียญทองสมัยที่ 7
เป้าหมายของสมาคมกรีฑาในซีเกมส์ที่พม่าต้องไม่ต่ำกว่าเหรียญทองครั้งที่แล้วที่คว้ามาได้ 14 เหรียญทอง ซึ่งสมาคมกรีฑามั่นใจมากกว่าครั้งก่อนที่ต้องเจอปัญหาน้ำท่วม โดยซีเกมส์ครั้งนี้แม้จะมีดาวรุ่งขึ้นมาแทนรุ่นพี่ในรายการสำคัญ แต่สมาคมยังเชื่อว่าไทยอยู่เหนือคู่แข่ง
แม้ว่าซีเกมส์ครั้งที่แล้วที่อินโดนีเซียไทยจะคว้ามาได้ 14 เหรียญทอง แต่ยังน้อยกว่าเป้าหมายที่วางไว้ก่อนแข่ง เพราะพลาดท่าในการคว้าแชมป์ระยะสั้นหลายรายการคือ 100, 200 และ 400 เมตรทั้งชาย และหญิง ซึ่งเกิดจากอุปสรรคในการเตรียมทีมที่ต้องหนีน้ำท่วม ย้ายสถานที่ซ้อมไป จ.ชลบุรี
ในการประเมินศักยภาพของทีมไทยที่คาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 14 เหรียญนั้น ในประเภทลาน คาดว่าจะมีโอกาสคว้าแชมป์อย่างน้อย 8 รายการ ส่วนในรายการสำคัญอย่างวิ่งผลัด และระยะสั้นที่ไทยพลาดท่าเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ครั้งนี้ไทยได้ลุ้นทุกรายการ แม้จะเป็นดาวรุ่งเกือบทั้งชุด แต่ผลงานในรายการชิงแชมป์เอเชียถือว่าการันตีฝีเท้าได้เป็นอย่างดี
ทีม 4 x 100 เมตรชายถือว่ามีการยกเครื่องเสริมรุ่นน้องเข้าไปใน 3 ไม้แรก ประกอบด้วย รัตนพล โสวัน, อภิสิทธิ์ พรหมแก้ว, จีระพงษ์ มีนาพระ ขณะที่ศุภชัย ฉิมดี ที่มีประสบการณ์มากกว่ายังครองไม้สุดท้าย ทีมชุดนี้ทำสถิติได้อย่างน่าสนใจเพราะดีกว่าสิงคโปร์คู่แข่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะแย่งเหรียญทองกับไทย
สำหรับทีม 4 x 100 เมตรหญิง ครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงเพียงตำแหน่งเดียวคือไม้ 3 โดยทัศพร วรรณกิจ จะได้แทนที่ของลภัสสร ถาวรเจริญ ส่วนอีก 3 คนประกอบด้วย ภัสสร จักษุนิล, ณีรนุช กล่อมดี และนงนุช แสนราช ไม้สุดท้าย ประสบการณ์ที่มากมายของทีมหญิงทำให้สมาคมมั่นใจว่าเหรียญทองไม่น่าจะหลุดมือ
ในการวิ่งระยะสั้นไทยผิดหวังมาจากครั้งที่แล้ว 100 เมตรทั้งชาย และหญิงไทยแพ้อินโดนีเซียทั้ง 2 รายการ แต่ครั้งนี้สมาคมมั่นใจว่าถึงเวลาแล้วสำหรับเจ้ามิลค์ จีระพงศ์ มีนาพระ ดาวรุ่งจาก จ.สุราษฎ์ธานี ที่จะคว้าเหรียญทอง และคาดหวังที่จะครองจ้าวเหรียญทองกรีฑาเป็นสมัยที่ 7 ติดต่อกัน โดยก่อนหน้านี้ไทยเคยกวาดเหรียญทองได้มากที่สุดถึง 22 เหรียญในซีเกมส์ที่มาเลเซียในปี 2544