<"">
หลังพัดเข้าสู่จีนเมื่อวานนี้ (11 พ.ย.) พายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนได้อ่อนกำลังลงอีก แต่สำหรับความเสียหายในฟิลิปปินส์นั้นถูกบรรยายสภาพว่ายิ่งกว่าแดนนรก ซึ่งรัฐบาลต้องจัดการด้วยการประกาศภาวะภัยพิบัติขึ้นทั้งประเทศ และสหรัฐฯ ประกาศส่งเรือบรรทุกเครื่องบินเข้ามาช่วยกู้ภัย
ประธานาธิบดีเบนิโน่ อาคีโน่ ใช้อำนาจประกาศภาวะภัยพิบัติแห่งชาติขึ้นเพื่อจัดการกับหายนะที่เกิดขึ้นจากมหาพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน ซึ่งผู้รอดชีวิต และต้องการอพยพออกจากพื้นที่ระบุว่า มีสภาพเลวร้ายยิ่งกว่าแดนนรก มีศพของผู้เสียชีวิตนอนกราดเกลื่อนไปทุกหนทุกแห่ง ทั้งนี้ สถานะของการประกาศภาวะภัยพิบัติทั่วประเทศจะทำให้รัฐบาลฟิลิปปินส์สามารถกำหนดราคาขั้นต่ำของสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีพ
"ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน" พัดขึ้นฝั่งทางตอนกลางของฟิลิปปินส์เมื่อวันศุกร์สัปดาห์ก่อน โดยขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมวิทยากำลังตรวจสอบให้แน่ชัดว่าจริงหรือไม่ที่มันพัดขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ด้วยความเร็วลมสูงถึง 375 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งก่อนหน้านั้นตอนที่ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกวัดความเร็วลมได้ 380 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการจนถึงเมื่อคืนที่ผ่านมาอยู่ที่ 942 คน แต่ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐบาล และกาชาดสากลก็เชื่อตรงกันว่า ถ้าพื้นที่ประสบภัยอีกมากสามารถเข้าถึง เช่นหมู่บ้านชาวประมงตามแนวชายฝั่งรอบเกาะหลายแห่ง จำนวนผู้เสียชีวิตอาจจะเพิ่มเกิน 10,000 คน โดยทางรัฐบาลต้องเร่งติดตั้งจานดาวเทียม เพื่อให้การสื่อสารที่เสียหายไปทั้งหมดสามารถกลับมาใช้ได้บ้าง โอกาสนี้ประธานาธิบดีอาคีโน่ได้ประกาศห้ามปรามการฉกฉวยลักทรัพย์หรือปล้นสดมภ์ ซึ่งได้เกิดขึ้นแล้ว
ด้านความช่วยเหลือจากนานาชาติ สหรัฐฯ ได้ประกาศส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน "ยูเอสเอส จอร์จ วอชิงตัน" และเรือคุ้มกันมาร่วมในการกู้ภัย ซึ่งกระทรวงกลาโหมสหรัฐย้ำด้วยว่า กองเรือดังกล่าวได้ออกเดินทางจากฮ่องกงแล้วด้วยความเร็วเต็มพิกัด โดยโอกาสเดียวกันนี้ก็มีอีกหลายประเทศและหน่วยงานนานาชาติระดมความช่วยเหลือมาให้ฟิลิปปินส์
พายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนหลังขึ้นฝั่งเวียดนามเมื่อวานนี้ ซึ่งก็ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน โดยช่วงวานนี้เช่นเดียวกันพายุโซนร้อนไห่เยี่ยนก็ได้พัดขึ้นฝั่งทางภาคใต้ของจีน ซึ่งมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน