รมว.พาณิชย์ยังไม่ทราบ IMF แนะไทยยกเลิก
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ระบุยังไม่ทราบรายงานข่าวกรณีกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ออกรายงาน และแนะไทยให้ยกเลิกโครงการรับจำนำข้าว โดยยืนยันว่า วัตถุประสงค์ของโครงการคือช่วยเหลือชาวนา
สำนักข่าวเอพี เสนอข่าวอ้างอิงรายงานประจำปีของไอเอ็มเอฟ ที่ระบุว่า ราคาข้าวสูงกว่าราคาตลาดร้อยละ 40 จึงเลี่ยงไม่ได้ที่รัฐบาลไทยจะต้องเผชิญการขาดทุน แม้เป็นที่แน่ชัดว่ารัฐบาลใช้งบประมาณกว่า 400,000 ล้านบาทในใครงการรับจำนำข้าว แต่ตัวเลขการขาดทุนไม่ชัดเจน โดยไอเอ็มเอฟระบุว่า รัฐบาลควรยกเลิกโครงการฯ เพราะบั่นทอนความเชื่อมั่นด้านการเงินของไทย และแนะให้เปลี่ยนเป็นโครงการที่ช่วยเหลือกลุ่มรายได้น้อยโดยตรง ซึ่งรวมถึงชาวนา
ด้านนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุขณะนี้ยังไม่ได้รับทราบรายงานของไอเอ็มเอฟ จึงยังไม่สามารถให้ความเห็นได้ ทั้งนี้ต้องพิจารณาว่าไอเอ็มเอฟ นำข้อมูลจากแหล่งใดมาบ้าง พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมาในรัฐบาลทุกสมัย ขาดทุนจากการอุดหนุนข้าวเฉลี่ยปีละ 80,000 บาท ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ เนื่องจากรับจำนำในปริมาณที่มากกว่าจึงขาดทุนมากกว่า เฉลี่ยปีละ 100,000 ล้าน ซึ่งสูงกว่าเดิมประมาณ 20,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังยืนยันว่า ชาวนาได้รับเงินทุกคน ซึ่งโครงการฯ ทำให้ชาวนามีรายได้เพิ่ม ใช้หนี้สินได้ ส่วนกรณีของการทุจริต ขณะนี้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบ
ขณะที่นายสมพร อิศวิลานนท์ นักวิชาการอาวุโสคลังสมองของชาติ เห็นด้วยกับรายงานไอเอ็มเอฟ ที่เสนอให้ล้มเลิกโครงการรับจำนำข้าว เพื่อลดภาระทางการคลัง ซึ่งจากการติดตามโครงการฯ รัฐบาลใช้เงินไปแล้วกว่า 680,000 ล้านบาท ใน 4 ฤดูกาลเพาะปลูก แต่ขายข้าวได้ 140,000 ล้านบาท และกล่าวว่า โครงการรับจำนำข้าว กระตุ้นให้ฐานหนี้ครัวเรือนของเกษตรกรสูงขึ้น เนื่องจากเกษตรกรมีการใช้จ่ายมากขึ้นตามรายได้ และไม่มีการเก็บออมมากนัก พร้อมกล่าวถึงแนวโน้มราคาข้าวในอนาคต ยังอยู่ในขาลง เพราะประเทศเกิดใหม่ เช่น พม่า และกัมพูชา ปลูกข้าวเพิ่มขึ้น แต่ความต้องการของโลกยังเท่าเดิม ซึ่งจะทำให้ข้าวในโครงการรับจำนำขายไม่ได้