สภาทนายความ ร้องกต. แจงข้อเท็จจริงคำตัดสิน "พระวิหาร"-ชี้ ปชช.ยังสับสน

 

นายกสภาทนายความ ระบุว่า จากการติดตามการพิจารณาคดีนี้ ตั้งแต่ต้นจนศาลโลกมีคำตัดสิน เห็นว่า ที่ผ่านมาทีมทนายความของประเทศไทย มีการตีความในเรื่องของเขตแดน และพื้นที่ต่าง ๆ ผิดพลาด และยืนยันว่า คำตัดสินของศาลโลกส่งผลประเทศไทย เสียพื้นที่บริเวณพระวิหาร แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นพื้นที่จำนวนเท่าไหร่ เนื่องจากศาลโลก ให้ทั้งสองประเทศไปทำข้อตกลงกันเพิ่มเติม

 

นอกจากนี้ สภาทนายความ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวน การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 เกี่ยวกับการทำบันทึกข้อตกลงระหว่างประเทศ ให้ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาก่อน จะมีผลผูกพันใด ๆ ซึ่งจะทำให้การตกลง เรื่องพื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหาร ตามที่ศาลโลกมีคำตัดสิน ไม่มีข้อเสียเปรียบเกิดขึ้นในอนาคต

 

ส่วนที่อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้รื้อรั้วลวดหนาม แผงเหล็ก และเต้นท์ ออกจากเส้นทางที่มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เนื่องจากสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อยู่ในภาวะปกติแล้ว

 

นายศักดิ์สิทธิ์ พลทรัพย์ศิริ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร กล่าวว่า แม้จะไม่มีกลุ่มมวลชนมาปักหลักชุมนุม แต่ต้องประเมินสถานการณ์ ร่วมกับฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครอง ถึงการเปิดให้เข้าชมอุทยานฯ ซึ่งคาดว่า ภายใน 2-3 วันนี้ จะเปิดให้ประชาชนขึ้นไปท่องเที่ยวได้ตามปกติ ส่วนที่ด่านชายแดนชั่วคราวช่องอานม้า ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ยังคงอนุญาตให้ชาวไทย และกัมพูชาผ่านเข้าออกได้ตามปกติ

 

แต่บรรยากาศไม่ค่อยคึกคึก มีเพียงชาวไทยข้ามไปหาญาติที่ฝั่งกัมพูชา ในอ.จอมประสาน จ.พระวิหาร ทหารพรานซึ่งรักษาความปลอดภัยบริเวณช่องอานม้า บอกว่า ไม่มีคำสั่งให้ปิดด่านช่วงการตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร เนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่ยังเป็นปกติ

 

ทั้งนี้ วันนี้ (14 พ.ย.) ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และผู้ว่าราชการจังหวัดพระวิหาร ประเทศกัมพูชา จะหารือถึงแนวทางการพัฒนาช่องอานม้า เพื่อให้ทั้ง 2 ประเทศใช้ประโยชน์ร่วมกันให้มากที่สุด