กกต.ยังไม่ได้ข้อสรุปผลการเลือกตั้งไม่เป็นทางการ
เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า จังหวัดที่ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากที่สุดคือ จังหวัดลำพูน ที่ประชาชนยังใช้สิทธิ์ต่อเนื่องจากครั้งที่แล้ว มีผู้มาใช้สิทธิ์ ร้อยละ 88.6 มีบัตรเสีย เพียงร้อยละ 5.7 ขณะที่ภาพรวมบัตรเสียในการเลือกตั้งครั้งนี้ พบว่ายอดบัตรเสียในส่วนการเลือกตั้งระบบเขต มีจำนวนมากกว่าระบบบัญชีรายชื่อ โดยพบว่า จังหวัดที่มีบัตรเสียมากที่สุด คือ จ.ยะลา รองลงมา คือ จ.ปัตตานี และ จ.นราธิวาส
เลขาธิการ กกต.กล่าวว่ากรณีที่บัตรเสีย แบบแข่งเขตมากกว่าแบบบัญชีรายชื่อ เนื่องมาจาก บางพรรคส่ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ แต่ไม่ส่งในระบบเขต ผู้ใช้สิทธิ์จึงไปกากบาทในบัตรเลือกตั้ง ส.ส.ระบบเขต ประกอบกับผู้มีสิทธิ์บางส่วนไม่ต้องการเลือกช่องไม่ประสงค์จะลงคะแนน ที่อาจจะมองว่าจะเข้าทางกลุ่มที่เรียกร้องให้โหวตโน จึงไม่กากบาทหมายเลขใด และทำให้กลายเป็นบัตรเสีย ส่วนบัตรเสียที่มีเป็นจำนวนมากใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ น่าจะมีมาจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่รู้หนังสือทั้งไทยและยาวี อย่างไรก็ตามภาพรวมของบัตรเสีย เมื่อเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งที่ผ่านมา พบว่ามีปริมาณไม่แตกต่างกันมากนัก คือ ร้อยละ 4-5
ทั้งนี้ เลขาธิการ กกต.กล่าวด้วยว่า จากจำนวนบัตรเสียทั้งหมด ตามที่พรรคการเมืองบางพรรคแสดงความห่วงใย
ส่วนเรื่องการร้องคัดค้านในการเลือกตั้งจนถึงเวลา 10.00 น. ของวันนี้ มีเรื่องร้องคัดค้านแล้วรวม 195 เรื่อง กรณีความผิดตามมาตรา 53 (5) แบ่งเป็น การใส่ร้ายหลอกลวงให้เข้าใจผิด 62 เรื่อง หาเสียงฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง 32 เรื่อง แจกเงิน 53 เรื่อง เจ้าหน้าที่วางตัวไม่เป็นกลาง 31 เรื่อง จัดเลี้ยงมหรสพ 10 เรื่อง
เลขาธิการ กกต.ยังชี้แจงกรณีการเผยแพร่ภาพในการช่วยเหลือผู้พิการใช้สิทธิ ยืนยันว่าการลงคะแนนดังกล่าวยังเป็นความลับ ซึ่งภาพที่เผยแพร่เป็นเพียงแค่การเซ็นชื่อไม่ใช่การลงคะแนน
เลขาธิการ กกต.ยังกล่าวถึงกรณี ผลเอ็กซิทโพล ที่มีการออกมาก่อนการเลือกตั้ง ว่ากังวลว่าจะมีผลต่อการชี้นำการเลือกตั้ง โดยจะนำบทเรียนในครั้งนี้ไปศึกษา เพื่อปรับปรุงมาตรฐานในการจัดการเลือกตั้งในครั้งต่อไป ซึ่ง กกต.จะไปศึกษากลไกลของเอ็กซิทโพล ในต่างประเทศ ว่ามีการดำเนินการอย่างไร