คนรุ่นใหม่ค้าน ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม

การปิดเรียนของโรงเรียนหลายแห่ง ตามมาตรการที่กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกว่า อารยะขัดขืน จนนำไปสู่การฟ้องร้องของผู้ปกครองที่เห็นว่า ไม่เหมาะสม ถูกวิเคราะห์จากนักวิชาการว่า เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ท่ามกลางสังคมที่ยังมีความคิดเห็นแตกต่างกัน แต่ก็ต้องระวัง ไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

แม้จะอยู่ในช่วงของการแสดงออกที่กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกว่าอารยะขัดขืน ด้วยการปิดทำการเรียนการสอนเป็นเวลา 3 วัน แต่นักศึกษาคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ 2 คนนี้ ก็ยังใช้เวลาว่างทบทวนบทเรียน พวกเธอบอกว่า การแสดงออกทางการเมืองที่มีมากขึ้นในกลุ่มนักศึกษา เพราะก่อนหน้านี้ได้ร่วมตัวทำกิจกรรมทางการเมืองในฐานะชื่อชุมนุมเสรีชนมาก่อน และตลอดเวลาก็ได้รับข่าวสาร การวิเคราะห์จากคณะอาจารย์ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในการบริหารประเทศจึงอยากร่วมแสดงออก

คณะวิทยาการจัดการ คณะคณะเศรษฐศาสตร์ และคณะพยาบาลศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้ประกาศปิดเรียนอย่างเป็นทางการตั้งแต่เมื่อวานนี้ (13 พ.ย.) โดยมีกลุ่มนักศึกษาเป็นแกนนำหลักในการออกมารณรงค์คัดค้านพรบ.นิรโทษกรรม และจะยกระดับการเคลื่อนไหวไปสู่เวทีการชุมนุมในที่อื่นๆ หรือรวมตัวกับองค์กรอื่น พร้อมๆไปกับการให้ความรู้กับประชาชนทั่วไปถึงผลกระทบจาก พ.ร.บ.ฉบับนี้

การเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษา ทั้งใน จ.สงขลา หรือใน จ.นครศรีธรรมราช ที่มีโรงเรียนระดับประถมศึกษา 9 แห่ง ประกาศปิดเรียน 3 วันจนนำไปสู่การเข้าแจ้งความของกลุ่มผู้ปกครองที่เห็นว่า ครู และผู้อำนวยการโรงเรียนละเว้น หรือ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ นักวิชาการมองว่า เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ท่ามกลางสังคมที่ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่าง โดยเฉพาะมาตรการที่กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกว่าอารยะขัดขืน ซึ่งมีความสุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดกฎหมาย แต่หากเคลื่อนไหวปราศจากความรุนแรง และมีกรอบการกระทำที่ชัดเจน ก็เป็นสิทธิทางการเมืองที่สามารถทำได้

ขณะที่นักวิชาการมองว่า ปรากฏการณ์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองเกิดจากความตื่นตัว และการรับรู้ข่าวสารที่มีมากขึ้น แต่ทุกฝ่ายจะต้องวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นธรรม เพื่อไม่ให้การเคลื่อนไหวตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง