กกต.นัดแถลงผลการเลือกตั้งพรุ่งนี้
นายไพบูลย์ เหล็กพรหม ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์คณะกรรมการการเลือกตั้ง แถลงเลื่อนการรายงานผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการออกไปเป็นวันพรุ่งนี้ จากกำหนดเดิมที่จะมีการแถลงให้สื่อมวลชนรับทราบในช่วงเวลา 14.00 น. โดยชี้แจงว่า การรายงานผล จะต้อง ผ่าน 3 ขั้นตอน คือ การรายงานผลทางโทรสาร ทางระบบคอมพิวเตอร์ และ ผอ.กกต.จังหวัด จะนำเอกสารตัวจริงมาส่งด้วยตัวเอง ที่ กกต.กลาง ซึ่งใน 2 ขั้นตอนแรกได้ดำเนินการเสร็จสิ้น เหลือในขั้นตอนสุดท้ายที่ ผอ.กกต.จังหวัด 3 จังหวัดคือ จ.แม่ฮ่องสอน จ.ระนอง และ จ.ตาก ที่ยังติดปัญหาฝนตกหนักไม่สามารถนำเอกสารตัวจริงมาส่ง กกต.กลางได้ โดยบางหมุ่บ้านใน อ.อุ้มผาง จ.ตาก ที่ต้องใช้เครื่องบินนำออกมาแต่สภาพอากาศไม่เป็นใจ ฝนตกหนัก และใน อ.ท่าสองยาง ก็เกิดดินสไลด์ โดยคาดว่าน่าจะนำส่งผลคะแนนได้ภายในวันนี้ ซึ่ง ผอ.กกต.จ.ตาก ย้ำกับ ผู้อำนวยการหน่วยเลือกตั้ง ประสานให้เดินเท้าออกมา ถ้าทำได้
อย่างไรก็ตาม นายไพบูลย์ กล่าวว่าขณะนี้การรวมผลคะแนนมีความชัดเจนแล้วร้อยละ 95 ซึ่ง กกต.พยายามที่จะรวบรวมข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้อง ก่อนจะแถลงให้ได้ก่อนเที่ยงวันพรุ่งนี้
กกต.แจงระบบการส่งข้อมูลสรุปผลการเลือกตั้ง
นายสโรรัตน์ คีรีรัตน์ ผอ.สำนักสนับสนุนการเลือกตั้ง เปิดเผยว่าขั้นตอนในการส่งผลการเลือกตั้ง ของ กกต.ขณะนี้ยังไม่สามารถรวบรวมข้อมูลได้ทั้งหมด 100 % โดยการส่งผลการเลือกตั้งจะต้องทำ 3 ขั้นตอน ซึ่งจำนวน ส.ส.ทั้งหมด 375 เขต กกต.จังหวัดจะส่งผลการนับคะแนนจากหน่วยต่าง ๆ รวบรวมข้อมูล ทั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ ส่งมายัง มาทางระบบคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายของ กกต.ในขั้นตอนแรก และส่งมาทางโทรสาร เมื่อผลการรายงานจากโทรสารและระบบคอมพิวเตอร์ถูกส่งมายัง กกต.กลางแล้วก็จะต้องมีการตรวจสอบทั้ง 2 ส่วนให้ถูกต้องตรงกัน จากนั้น ผอ.กกต.จังหวัดจะนำผลการเลือกตั้งมาส่งที่ กกต.กลางด้วยตนเอง เพื่อตรวจสอบให้ตรงกัน ทั้ง 3 ส่วน ทั้งนี้ยังเหลือเพียงบางจังหวัด เช่น จ.ตาก จ.แม่ฮ่องสอน ที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ผอ.กกต.จังหวัดยังไม่สามารถนำผลมารายงานต่อ กกต.ได้ตามขั้นตอน
ทั้งนี้เมื่อรวบรวมคะแนนถูกต้องแล้ว นายสโรรัตน์ กล่าวว่าศูนย์อำนวยการและประสานงานการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จะประมวลผลต่อไป ซึ่งคะแนนเลือกตั้งแบบแบ่งเขตนั้นถือว่าเป็นที่ยุติแล้ว ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดจะเป็นผู้ได้รับการเลือกตั้ง แต่ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมคะแนนแบบบัญชีรายชื่อ เพื่อดูว่าแต่ละพรรคได้คะแนนเสียงเท่าใด แล้วหารด้วย 125 ก็จะได้จำนวนที่นั่ง ส.ส. ที่แต่ละพรรคได้รับ แต่เมื่อคำนวนแล้วไม่ถึงร้อยละ 25 จะดูจากเศษการคำนวนไล่ลงมาจนครบ 125 คน